วานนี้ (28 เมษายน) ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้ออกหนังสือทวงถามถึงผู้พิพากษาที่พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและประธานศาลฎีกา โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ที่ผ่านมาภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้มีจดหมายเปิดผนึก แถลงการณ์ หนังสือ คำประกาศ ฯลฯ ถึงสถาบันตุลาการ เพื่อสื่อสารถึงสิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด โดยอ้างถึงหลักการและเจตนารมณ์แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ หลักการสากล กติการะหว่างประเทศ รวมถึงประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ แต่การใช้ดุลพินิจของศาลก็มิได้อยู่ในร่องในรอยภายใต้หลักการดังกล่าวแต่อย่างใด
ในครั้งนี้ภาคีฯ จะไม่กล่าวอ้างถึงหลักการกฎหมายใดๆ ที่ศาลมีหน้าที่ต้องใช้เป็นกรอบกำกับการใช้ดุลพินิจในการปล่อยชั่วคราว แต่จะทวงถามถึงความเป็นมนุษย์ในกระบวนการยุติธรรม เพราะชีวิตคือสิ่งสำคัญสูงสุดที่กระบวนการยุติธรรมจะละเลยเสียมิได้
ภาคีฯ ระบุอีกว่า กรณีของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่อดอาหารเพื่อทวงสิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวจากกระบวนการยุติธรรม เป็นการสื่อสารกับสถาบันตุลาการอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาการไม่ได้รับสิทธิในการปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาหรือจำเลย ซึ่งมีการพูดถึงกันมาโดยตลอดในสังคมไทย มิใช่เพียงคดีของผู้เห็นต่างทางการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึงดุลพินิจในการปล่อยชั่วคราวที่มีปัญหาทั้งระบบที่ไม่มีใครกล้าสื่อสารและยืนยันสิทธิต่อหน้าศาลอย่างตรงไปตรงมาและอย่างถึงที่สุดเช่นที่พริษฐ์ทำ
ปัจจุบันพริษฐ์อดอาหารมานานกว่า 40 วันแล้ว สภาพร่างกายอยู่ในอันตรายขั้นวิกฤตจนอาจเสียชีวิตในเรือนจำภายใต้คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาล จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีชีวิตรอดมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองต่อหน้าศาลต่อไป
ภาคีฯ ขอยืนยันสิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และขอให้ศาลทบทวนพฤติกรรมการใช้อำนาจตามกฎหมายของตนว่าก่อผลเช่นใดต่อสังคมและระบบกระบวนการยุติธรรม
“ไม่มีบทกฎหมายใดกำหนดหรือบังคับให้ศาลใช้กฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรมโดยละเลยชีวิตผู้คนและความเป็นมนุษย์”
ขณะที่เมื่อวานนี้ สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ เปิดเผยว่า ทนายความได้เข้าเยี่ยมลูกชาย และลูกชายบอกเล่าอาการให้ทนายความฟัง แล้วห้ามทนายความไม่ให้บอกแม่ แต่ทนายก็บอกว่าตนเองควรจะรู้ โดยเพนกวินบอกว่า อาการของเขาอ่อนเพลีย อ่อนแรง ผิวหนังเริ่มเหี่ยว นอนไม่ค่อยได้ ที่สำคัญที่เป็นห่วงมากๆ เขาถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ถ้าเขาถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ก็แสดงว่าร่างกายเขาย่อยกระเพาะตัวเอง มันจึงเป็นอาการค่อนข้างน่าเป็นห่วง
อ้างอิง: