สื่อออสเตรเลียรายงานข่าวที่น่าตกใจในวันนี้ (3 พฤษภาคม) โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อยู่ภายในตัวของจระเข้ขนาดยักษ์ ซึ่งคาดว่าเป็นร่างของชายชาวประมงคนหนึ่งที่หายตัวไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
เควิน ดาร์โมดี วัย 65 ปี หายตัวไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 เมษายน) ระหว่างที่ไปออกทริปตกปลากับเพื่อน โดยมีคนพบเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้ายที่ริมแม่น้ำเคนเนดี ในอุทยานแห่งชาติ Rinyirru ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้น้ำเค็มจำนวนมาก
หลังจากที่มีการระดมกำลังกันค้นหาอย่างต่อเนื่องถึง 2 วันเต็ม เจ้าหน้าที่ก็ได้การุณยฆาตจระเข้ขนาดใหญ่ 2 ตัว และพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อยู่ในตัวจระเข้ ซึ่งคาดว่าเป็นร่างของดาร์โมดี โดยทางการจะนำชิ้นส่วนดังกล่าวไปเข้ากระบวนการพิสูจน์ตัวตนอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับจระเข้ที่จับได้ทั้งสองตัวนั้นมีความยาวถึง 4.1 และ 2.8 เมตร ตามลำดับ โดยเจ้าหน้าที่ฆ่ามันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 พฤษภาคม) ห่างจากจุดที่มีคนพบเห็นดาร์โมดีเป็นครั้งสุดท้ายประมาณ 1.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ในจระเข้เพียงตัวเดียว แต่คาดว่าจระเข้ที่ก่อเหตุทำร้ายดาร์โมดีเป็นจระเข้ทั้งสองตัว
เพื่อนชาวประมงที่ออกไปกับดาร์โมดีในวันเกิดเหตุเล่าว่า เขาไม่เห็นกับตาว่าดาร์โมดีถูกจระเข้ทำร้าย แต่ได้ยินดาร์โมดีร้องตะโกนเสียงดัง และตามมาด้วยเสียงผิวน้ำกระจาย หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปหาดาร์โมดี แต่ก็ไม่พบเจ้าตัวแล้ว มีเพียงรองเท้าที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเท่านั้น
ทั้งนี้ จระเข้เป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไปในรัฐควีนส์แลนด์ โดยนับตั้งแต่ที่ทางการออกกฎหมายห้ามล่าจระเข้ในปี 1974 จำนวนประชากรจระเข้ในพื้นที่ดังกล่าวก็พุ่งขึ้นจากที่ราว 5,000 ตัว มาแตะที่ 30,000 ตัวในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี เหตุจระเข้ทำร้ายมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่พบได้ยากมาก โดยดาร์โมดีถือเป็นเหยื่อรายที่ 13 ที่ถูกจระเข้โจมตีจนถึงแก่ชีวิตในรัฐควีนส์แลนด์ นับตั้งแต่ที่มีการเก็บสถิติมาในปี 1985
แฟ้มภาพ: PomInOz Via Shutterstock
อ้างอิง:
