Huawei ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก ประกาศรายได้ทะลุ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 ด้วยแรงหนุนจากยอดขายในต่างประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากแคมเปญบอยคอตผลิตภัณฑ์ Huawei ที่โหมกระพือโดยสหรัฐฯ สืบเนื่องจากความวิตกในปัญหาความมั่นคง
Huawei เปิดเผยในวันนี้ (29 มี.ค.) ว่ารายได้ของบริษัทพุ่งขึ้น 19.5% สู่ระดับ 721,100 ล้านหยวน (ราว 107,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติใหม่ของบริษัท โดยกำไรสุทธิในปี 2018 พุ่งขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ 59,300 ล้านหยวน (8,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2017
ผู้นำเทคโนโลยี 5G ของโลกระบุว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้มีแรงขับเคลื่อนจากยอดขายสมาร์ทโฟนที่เติบโตถึง 45% ซึ่งแม้ว่า 52% ของยอดขายมือถือยังคงอยู่ในประเทศจีน แต่รายได้ในภูมิภาคอเมริกาก็เติบโตถึงกว่า 20% ขณะที่ในยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิกก็โตถึง 15% แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากนานาชาติที่วิตกว่ารัฐบาลจีนอาจใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของ Huawei ในการสอดแนมและจารกรรมข้อมูลของรัฐบาลประเทศต่างๆ
นอกจากความมั่นคงทางไซเบอร์แล้ว Huawei ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาความบาดหมางระหว่างจีนและสหรัฐฯ สืบเนื่องจากกรณีการจับกุมตัว เมิ่งหว่านโจว บุตรสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei ด้วยข้อกล่าวหาละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่าน
ด้าน กัวผิง ประธานหมุนเวียนของ Huawei พูดถึงกรณีการกดดันของสหรัฐฯ ว่า “สหรัฐฯ ต้องการทำให้ Huawei แปดเปื้อน เพราะพวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับเราได้” พร้อมยืนยันด้วยว่าแรงกดดันจากภายนอกจะช่วยให้ Huawei พัฒนายิ่งขึ้น โดยชี้ว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าประเทศต่างๆ ตัดสินใจโดยยึดถือผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ไม่ใช่ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม กัวผิงยอมรับว่ามาตรการของสหรัฐฯ ได้สร้างปัญหาให้ Huawei บางส่วน และพร้อมจะสื่อสารกับสหรัฐฯ มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ผู้บริหารของ Huawei ยังตั้งเป้าว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักในปีนี้
ทั้งนี้ Huawei เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยส่วนแบ่งในตลาดคิดเป็น 28% มากกว่าคู่แข่งจากยุโรปทั้ง Ericsson และ Nokia
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
