เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ HUAWEI Technologies วัย 80 ปี เปิดใจถึงการที่บริษัทต้องพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีของตัวเองหลังถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา แม้จะชื่นชม ‘ความเปิดกว้างและการยอมรับความหลากหลาย’ ของชุมชนเทคโนโลยีสหรัฐฯ แต่ยอมรับว่าบริษัทยังคงดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
จากการสนทนากับนักศึกษาและนักวิชาการในงาน International Collegiate Programming Contest (ICPC) การแข่งขันเขียนโค้ดระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจาก HUAWEIเหรินเจิ้งเฟยกล่าวว่า “สหรัฐฯ เป็นต้นแบบให้ทุกประเทศและบริษัททั่วโลกในด้านความเปิดกว้าง” และ “หากประเทศใดปิดกั้นตัวเองก็จะล้าหลัง”
พร้อมเน้นย้ำว่า HUAWEIจำเป็นต้องเรียนรู้จากวัฒนธรรมที่เปิดรับของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ประเทศก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- HUAWEIทิ้ง Android แล้ว! เปิดตัว HarmonyOS 5.0 ‘เลือดบริสุทธิ์’ พร้อมลุยตลาดสมาร์ทโฟนโลก
- มังกรก็ยังเป็นมังกรอยู่วันยังค่ำ! สิ่งที่อเมริกาควรเรียนรู้จาก ‘ความล้มเหลว’ ในการพยายามล้มHuawei
- Huaweiปิดปี 2023 ได้ดี รายได้โตเฉียด 100,000 ล้านดอลลาร์ แม้จะเจอกับการกีดขวางทางธุรกิจจากฝั่งตะวันตก
พร้อมเน้นย้ำว่า HUAWEIจำเป็นต้องเรียนรู้จากวัฒนธรรมที่เปิดรับของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ประเทศก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
HUAWEIที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเซินเจิ้นถูกห้ามซื้อฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการจากซัพพลายเออร์เทคโนโลยีสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 หลังถูกขึ้นบัญชีดำทางการค้า และในปี 2020 มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นยังจำกัดการเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่พัฒนาหรือผลิตด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะผลิตที่ไหนก็ตาม
ตั้งแต่นั้นมา HUAWEIปรับตัวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายพึ่งพาตนเองของจีน ตั้งแต่ชิป AI ไปจนถึงระบบปฏิบัติการ ในปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้โปรเซสเซอร์ขั้นสูงที่ผลิตในจีนทั้งหมด ยกเลิกการรองรับแอปพลิเคชันที่ใช้ Android บนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่พัฒนาขึ้นเอง และกำลังพัฒนาชิป AI เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA
เหรินเจิ้งเฟยมองว่ากระแส AI เป็นสิ่งที่หยุดยั้งไม่ได้ โดยกล่าวว่า “เช่นเดียวกับการประดิษฐ์รถไฟ, เครื่องจักร, สิ่งทอ และเรือในอังกฤษ ที่สร้างจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ การใช้งาน AI กำลังสร้างจุดเปลี่ยนแห่งยุคสมัยของเรา” แต่ยอมรับว่า “จนถึงวันนี้เรายังไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าเราจะอยู่รอด” เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงชิปและเทคโนโลยีที่ดีกว่าซึ่งคู่แข่งสามารถใช้ได้
“เทคโนโลยีและเครื่องมือของสหรัฐฯ ดีมาก แต่ HUAWEIไม่สามารถใช้ได้ เราไม่มีทางเลือกนอกจากสร้างเครื่องมือของเราเอง” เหรินเจิ้งเฟยกล่าว พร้อมเน้นว่านวัตกรรมแบบเปิดและการใช้ประโยชน์จากความสำเร็จขั้นสูงของผู้อื่นเป็นหนทางที่แท้จริงสำหรับองค์กร
ทั้งนี้ แม้จะลดบทบาทในการบริหารงานประจำวัน แต่เขายังคงเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขาของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีน และมักชื่นชมสหรัฐฯ และคู่แข่งอย่าง Apple อยู่เสมอ
โดยเขาเคยเรียกตัวเองว่าเป็น ‘แฟนของ Apple’ ในการพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขัน ICPC เมื่อปีที่แล้ว และในการประชุมภายในปี 2021 ยังกระตุ้นให้พนักงานเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ อีกด้วย
อ้างอิง: