หลังจากเงียบหายไปนาน จากการที่อเมริกาต่อต้านและแบนเทคโนโลยีแดนมังกรเป็นจำนวนมาก ในตอนนี้ Huawei กลับมาผงาดอีกครั้ง พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี 6G ซึ่งแม่ทัพของ Huawei ลั่นวาจาว่า “เราจะพัฒนาให้ทะลุทุกขีดจำกัดที่มี” เดินหน้าสร้างมาตรฐานระดับโลกในอุตสาหกรรมที่จะเกิดใหม่นี้
เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหารของ Huawei เข้าพบลูกทัพของตัวเอง ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ไปจนถึงเด็กฝึกงานของ Huawei เพื่อกำหนดทิศทางองค์กร โดยทิศทางที่จะเดินทัพไปนั้นมีทั้งการพัฒนาสิ่งที่สร้างไว้ก่อนหน้านั้นอย่างเทคโนโลยี 5G และ AI รวมถึงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคตไว้ให้ได้อีกด้วย
“เราได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี 6G เพื่อเตรียมตัวสำหรับอุตสาหกรรมนี้ในอนาคตมาสักพักแล้ว รวมถึงเรามีเป้าหมายที่จะครอบครองสิทธิบัตรเทคโนโลยี 6G โดยเราจะไม่รอจนกว่าเทคโนโลยี 6G จะเริ่มมีการใช้งาน หากเรารอจนถึงตอนนั้นอาจไม่ทันการ เราไม่อยากถูกรั้งไว้จากการไม่มีสิทธิบัตร” เหริน กล่าว
ในปัจจุบัน Huawei ครอบครองสิทธิบัตรที่จำเป็นต่อมาตรฐาน หรือ Standard-Essential Patent (SEP) เกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ไว้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเชื่อมต่อรวดเร็วยิ่งขึ้น มีความหน่วงต่ำ (Low-Latency) โดยเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถนำมาใช้ได้ตั้งแต่รถยนต์ไร้คนขับไปจนถึงวิดีโอถ่ายทอดสด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานใหม่ของโลก
ทว่าการมาของ 6G จะล้ำหน้ามากขึ้นไปกว่านั้นอีก เทคโนโลยี 6G จะเป็นประตูที่เปิดโลกใบใหม่สำหรับเทคโนโลยีการวิจัยอวกาศและธรณีศาสตร์
หากพูดถึง 6G อเมริกาและญี่ปุ่นได้เริ่มพัฒนาไปก่อนหน้านั้นแล้ว โดยทำการข้ามเทคโนโลยี 5G ไปก่อน และเน้นไปยัง 6G แทน โดยอเมริกาและญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินไปกับเทคโนโลยี 6G และเทคโนโลยีดาวเทียมซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของอเมริกา ส่งผลให้เทคโนโลยี 5G ของทั้งญี่ปุ่นและอเมริกานั้นยังตามหลังจีนอยู่ ซึ่งเทคโนโลยี 5G นี้ถือเป็นอาวุธชิ้นหนึ่งของจีนที่จะช่วยเพิ่มการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้
นอกจากทิศทางเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G และ 6G ของ Huawei แล้ว เหรินยังพูดถึงทิศทางการรับมือหลังจากรายได้ของสินค้าเสาหลักอย่างสมาร์ทโฟนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนลดต่ำสุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากการแบนของอเมริกา
ด้วยผลกระทบครั้งนั้น ทำให้ Huawei เปลี่ยนทิศทางองค์กร “จากเดิมที่ต้องการจะเป็นผู้นำด้านชิปสมาร์ทโฟนที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก เปลี่ยนมาเป็นจัดหาส่วนประกอบของสมาร์ทโฟนที่แค่ ‘เหมาะสมเพียงพอ’ ต่อการเป็นสมาร์ทโฟนคุณภาพสูงตามมาตรฐานที่สามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้” เหริน กล่าว
อย่างไรก็ตาม เหรินไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกการพัฒนาหน่วยผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของตัวเองอย่างบริษัท HiSilicon Technologies รวมถึง Nikkei Asia ยังรายงานว่า Huawei เข้าลงทุนในบริษัทชิปกว่า 20 แห่งเมื่อต้นปีนี้
“นอกจากนั้นเรายังพยายามดึงผู้เชี่ยวชาญและคนเก่งๆ จากทุกมุมโลกเข้ามาร่วมงานด้วย ไม่เว้นแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเน้นไปที่ยุโรปเป็นหลัก โดยเราพร้อมปรับโครงสร้างค่าแรง และจะจ่ายค่าแรงให้มากกว่าค่าแรงในตลาด” เหริน กล่าว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP