จากกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศขยายใบอนุญาตทางการค้าเพื่อให้หัวเว่ยสามารถซื้อผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทอเมริกัน และให้บริการแก่ลูกค้าที่มีอยู่ได้ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังคงใส่รายชื่อหัวเว่ยลงไปในบัญชีดำ (Entity List)
ล่าสุดหัวเว่ยได้นำเอาบทสัมภาษณ์ที่เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย เคยตอบกับสำนักข่าวสกายนิวส์ ในช่วงวันที่ 15 ส.ค. มาเผยแพร่อีกครั้ง โดยบอกว่า การขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยของสหรัฐอเมริกาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เพราะอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ของหัวเว่ยก็ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐฯ อยู่แล้ว ขณะที่หัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด เพื่อมอบบริการที่ดีให้แก่ลูกค้าทั่วโลกต่อไป
“ก่อนอื่นเลย โปรดรับทราบไว้ด้วยว่า การรวมพวกเราเข้าไว้ในรายชื่อ Entity List นั้นไม่ยุติธรรมเลย หัวเว่ยไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับต้องไปอยู่ในรายชื่อดังกล่าว
“อุปกรณ์ที่ทันสมัยส่วนใหญ่ของเราไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐฯ แม้ว่าในอดีตเราจะใช้ชิ้นส่วนของพวกเขาก็ตาม แต่อุปกรณ์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเมื่อก่อนถึง 30% โดยในปีนี้ เราจะผลิตสถานีฐาน 5G ได้ 600,000 ชุด และอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดในปีหน้า นั่นหมายความว่า เราไม่ต้องพึ่งพาบริษัทอเมริกันเพื่อความอยู่รอดของเราในด้านนี้
“อย่างไรก็ตามที เราก็ยังอ้าแขนต้อนรับบริษัทอเมริกันอยู่เสมอ ตราบเท่าที่พวกเขายังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ให้เราได้ เราก็ยังซื้อชิ้นส่วนจากพวกเขาในปริมาณมากๆ ต่อไป เราเชื่อว่าโลกาภิวัตน์นั้นจะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกคน เราจึงจะไม่เลือกปิดประตูใส่ใคร แม้ว่าเราสามารถผลิตชิ้นส่วนบางอย่างได้ด้วยตัวเองก็ตาม”
เมื่อนักข่าวถามถึงความเห็นที่ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยมีต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เหรินเจิ้งเฟยจึงตอบว่า “หากไม่มีทรัมป์คอยโปรโมตให้ ผู้คนมากมายทั่วโลกคงไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยนั้นมีความล้ำสมัยมากเพียงใด ทรัมป์นี่แหละที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้เรา”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์