แม้เรื่องสิทธิสตรีถูกพูดถึงในวงกว้างและถูกยกระดับอย่างสูงสุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นระหว่างเพศในมิติของรายได้ยังเป็นเรื่องใหญ่ ล่าสุดธนาคารระดับโลกอย่าง HSBC เปิดเผยว่า รายได้ของลูกจ้างหญิงในองค์กรแตกต่างจากผู้ชายถึง 29% ตอกย้ำปัญหาฝังรากลึกที่ยากจะแก้ไข
HSBC Holdings plc สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยตัวเลขช่องว่างรายได้ระหว่างเพศของคนในองค์กรพบว่าแตกต่างกันถึง 29% ซึ่งคำนวณส่วนที่เป็นเงินเดือนและผลตอบแทนที่จ่ายประจำ ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงกลับห่างกันมากถึง 59% และช่องว่างของเงินโบนัสแตกต่างกันถึง 61% ซึ่งถ้าเปรียบเทียบตัวเลขแล้วถือว่าสูงกว่าองค์กรอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันอย่าง Barclays ที่ตัวเลขช่องว่างรายได้ระหว่างเพศอยู่ที่ 14.2% แต่ยังเป็นรองธนาคาร Royal Bank แห่งสกอตแลนด์ที่สูงถึง 36.5%
วิธีการคำนวณส่วนใหญ่ใช้ค่ามัธยฐาน (Median) คือ ค่าที่มีตำแหน่งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมดเมื่อเรียงจากตัวเลขเงินเดือนที่ต่ำสุดไปหาค่าที่มากที่สุด แล้วนำค่ามัธยฐานนี้มาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มลูกจ้างชายและหญิง ซึ่งสะท้อนการกระจายตัวของระดับเงินเดือนได้อย่างดี
ผู้บริหารของ HSBC ชี้แจงว่า เป็นเรื่องของการคำนวณ แม้ว่าพนักงานทั้งองค์กรของ HSBC ส่วนใหญ่ หรือ 54% เป็นผู้หญิง แต่มีผู้บริหารหญิงค่อนข้างน้อย ซึ่งมีเพียง 23% เท่านั้น และผู้บริหารซึ่งมีเงินเดือนสูงเกือบทั้งหมดจะสังกัดที่สำนักงานใหญ่ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะทำให้ตัวเลขแตกต่างอย่างชัดเจน และการพิจารณาจ่ายเงินเดือนขึ้นกับประสบการณ์การทำงานและผลงานที่ทำได้ โดย HSBC ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนของผู้บริหารหญิงให้เป็น 30% ในปี 2020 นี้
รัฐบาลอังกฤษออกกฎตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา ให้องค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 250 คนขึ้นไปต้องรายงาน 14 ตัวเลขสำคัญ ซึ่งมีทั้งตัวเลขช่องว่างรายได้ระหว่างเพศ รวมทั้งช่องว่างการจ่ายเงินโบนัสด้วย ทุกองค์กรต้องส่งข้อมูลให้ครบในวันที่ 4 เมษายนปีนี้
อ้างอิง: