โลกหมุนไปทุกวัน การเปลี่ยนแปลงของโลกก็เช่นกัน ยิ่งในยุคดิสรัปชัน (Disruption) ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดล้มกระดานในทุกแวดวงธุรกิจ การทำความเข้าใจเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็น
ไม่มีที่ว่างในวันหน้าให้กับคนที่อยู่เฉยๆ แปลจากหนังสือขายดีชื่อ How to Prepare Now for What’s Next เขียนโดย ไมเคิล แมคควีน นักพูด นักวางแผนกลยุทธ์ และนักทำนายเทรนด์ระดับโลก เขาเคยเสนอวิธีการ ความคิด และแผนรับมือให้กับองค์กรชั้นนำ เพื่อผ่านพ้นวิกฤตการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมามากมาย และแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องหนักๆ ที่น่าจะอ่านยาก แต่หนังสือเล่มนี้กลับทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทั้งยังอ่านสนุกและเหมาะมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่ง สตาร์ทอัพหน้าใหม่ หรืออยู่ในตำแหน่งใหญ่ๆ ขององค์กร
“ปี 2011 เมื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ต่างล่มสลายแบบไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ร้านหนังสือ Borders กล้องและฟิล์ม Kodak โทรศัพท์มือถือ Blackberry ไปจนถึงแฟรนไชส์ร้านเช่าวิดีโอ Blockbuster จากที่ผมเริ่มเขียนถึงสิ่งเหล่านี้ในบล็อกส่วนตัว กลายมาเป็นโปรเจกต์งานวิจัยเพื่อศึกษาถึงผลกระทบของการปิดตัวลงของธุรกิจ เพื่อตอบคำถามเพียง 2 คำถามคือ 1. ทำไมธุรกิจยักษ์ใหญ่ถึงล่มสลาย และ 2. ทำไมธุรกิจที่ยังคงอยู่จึงรอดมาได้”
พาร์ตแรกของหนังสือช่วยตอบคำถามเหล่านี้ ทั้งยังเป็นการปูพื้นให้เข้าใจถึงการเกิดขึ้นของยุค Disruption ที่ข้องเกี่ยวในทุกธุรกิจ ทั้งสื่อบันเทิง ยานยนต์ พลังงาน การเดินทางท่องเที่ยว และการเงินการธนาคาร อย่างเช่น กรณีศึกษาเมื่อ YouTube เข้ามาแย่งชิงพื้นที่ของสถานีโทรทัศน์ “คนกว่า 1.5 พันล้านคน เข้าชมเว็บไซต์ยูทูบในทุกเดือน คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ ผู้ชมใช้เวลาบนยูทูบต่อวันราว 1 พันล้านชั่วโมง เท่ากับว่า ยูทูบคือเครือข่ายโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หรืออีกกรณีศึกษาหนึ่ง “Airbnb มีมูลค่ามากกว่าเครือธุรกิจโรงแรมยักษ์ใหญ่อย่าง Hyatt ถึงสองเท่า และมีรายชื่อที่พักที่จดทะเบียนกว่า 4 ล้านแห่งใน 34,000 เมืองทั่วโลก”
ช่วงถัดมา ผู้เขียนพาเราไปทำความเข้าใจกับยุคสมัยแห่งอนาคต วิเคราะห์กลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลที่เป็นผู้ครองตลาดในปัจจุบัน ความแตกต่างของยุคสมัยที่เกิดขึ้นอย่างเช่น “คนยุคมิลเลนเนียลลดการลงทุนในการใช้ครีมบำรุงผิวราคาแพงที่คนยุคเก่าใช้ในช่วงวัย 30-40 ผู้บริโภควัยหนุ่มสาวจับจ่ายในผลิตภัณฑ์จำพวกแผ่นมาสก์หน้าหรือเครื่องสำอางที่ให้ผลหรือมอบความสวยงามได้ในทันที” และเมื่อเรารู้แล้วว่า การครองใจคนยุคใหม่เป็นสิ่งสำคัญ หากหวังใจจะยืนหยัดธุรกิจต่อไปในอนาคตก็ต้อง ‘คิดแบบมิลเลนเนียล’ ซึ่งผู้เขียนได้ขยายความไว้ในหลายหัวข้อ พร้อมกรณีศึกษาของบริษัทที่เริ่มเปลี่ยนแปลงธุรกิจ อย่างเช่น ห้าง Target ที่เปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านขนาดเล็ก และเน้นการขายของออนไลน์ Toyota ผลิตแบรนด์ลูกที่ชื่อ Scion เพื่อกลุ่มมิลเลนเนียล Ford เปิดตัว Fiesta ขณะที่ Harley-Davidson พยายามเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยการเชื่อมต่อและพัฒนาองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน
พาร์ตที่สองของหนังสือคือ กุญแจสำคัญ 9 ประการ เพื่อก้าวเป็นผู้ชนะในยุคแห่งปรากฏการณ์พลิกผัน แมคควีนมองว่า โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วไม่สามารถใช้สูตรแห่งความสำเร็จแบบเดิมในอดีต หากต้องการเป็นผู้เล่นในเกมยุคที่ปรากฏการณ์พลิกผัน คุณต้องเปิดรับกระบวนทัศน์และรู้จักมองหาเส้นทางใหม่ๆ ที่จะพาคุณมุ่งไปข้างหน้า ในส่วนนี้เต็มไปด้วยกลยุทธ์น่าสนใจที่นำไปใช้ได้จริง รวมทั้งกรณีศึกษาของบริษัทจำนวนมากมายที่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง และกรณีศึกษาความล้มเหลวของบริษัทจำนวนมากมายที่เดินเกมผิดพลาด ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เราเข้าใจเส้นทางที่ควรจะเดินไปได้ง่ายขึ้น
วิธีที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่น คือหนึ่งในวิธีที่แมคควีนแนะนำ โดยยกหลายกรณีศึกษาที่น่าสนใจ อย่างเช่น ดิสนีย์ได้เปิดเผยแผนที่จะสร้างโรงแรม Star Wars ในลอสแอนเจลิส โดยแขกที่เข้าพักจะต้องดำเนินตามเนื้อเรื่องจากซีรีส์ จากห้องพักที่ออกแบบเหมือนยานอวกาศ, Sony เลือกประกาศแผนธุรกิจในปี 2017 ด้วยการกลับมาผลิตแผ่นเสียงอีกครั้งตามการเติบโตของเทรนด์นี้ในหมู่ผู้บริโภควัยหนุ่มสาว และยังเปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผู้ใช้สามารถบันทึกเสียงเพลงเป็นไฟล์ดิจิทัลคุณภาพสูงได้อีกด้วย, การฟื้นคืนชีพของ Lego ที่เปลี่ยนแผนการผลิต โละสินค้าที่ไม่ทันสมัยออกไป ทั้งยังยุติการฟ้องผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วรับเอาแนวคิดของแฟนๆ เลโก้ ด้วยการเปิดตัว Lego Ideas ที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมากมายหลังจากนั้น และนำพาบริษัทกลับมาสู่ภาวะกำไรได้อีกครั้ง
แมคควีนใช้เวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ในการพูดคุยกับนักคิดทั่วโลก ทำวิจัย และรวบรวมข้อมูลที่ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดการพลิกผันอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด เขายังได้รวมเอางานวิจัยเชิงลึก กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง มาให้เราได้ตาสว่างและเตรียมรับมือกับโลกอนาคตที่รอเราอยู่
ถ้าหากคุณยังต้องวิ่งไปกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น การสำรวจตัวเอง วิเคราะห์ข้อเด่นข้อด้อยของตัวเองผ่านหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และปรับมุมมองความคิดใหม่ๆ ที่จะร่วมทางไปกับอนาคตที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างเข้าใจและพร้อมจะเรียนรู้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
How to Prepare Now for What’s Next ไม่มีที่ว่างในวันข้างหน้าให้กับคนที่อยู่เฉยๆ
สำนักพิมพ์ Move Publishing
เขียน ไมเคิล แมคควีน
แปล ญาณพล มุสิเกตุ
ราคา 359 บาท