×

สะสมไวน์ 101: จากนักดื่มผู้คลั่งไคล้ในรสชาติ จะก้าวขึ้นมาเป็น ‘นักสะสม’ ได้อย่างไร

02.10.2023
  • LOADING...
สะสมไวน์

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • ‘ไวน์’ ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ การดื่มไวน์สามารถสะท้อนถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และตัวตนของผู้ดื่มได้ โดยไวน์มีอยู่ในการรับประทานอาหาร พิธีกรรม และงานเลี้ยง ทำให้มีความหมายมากกว่าเพียงแค่เครื่องดื่ม
  • สิ่งสำคัญคือก่อนจะเป็นนักสะสมนั้นควรมีความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ไวน์โลกเก่าหรือโลกใหม่ ตลอดจนปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้รสชาติไวน์เปลี่ยนไป
  • ขณะเดียวกันการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักสะสมไวน์ได้นั้น ความชอบอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องมีองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างคือคำว่า Wealth ซึ่งจะทำให้เราสามารถเสาะหาไวน์ที่เราชื่นชอบ ที่บางครั้งอาจมีมูลค่าสูงมาดื่มได้อย่างสบายใจ

‘ไวน์’ ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ การดื่มไวน์สามารถสะท้อนถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และตัวตนของผู้ดื่มได้ โดยไวน์มีอยู่ในการรับประทานอาหาร พิธีกรรม และงานเลี้ยง ทำให้มีความหมายมากกว่าเพียงแค่เครื่องดื่ม

 

ด้วยเหตุนี้เองจึงมีทั้งผู้ที่ดื่มไวน์เพื่อสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ทางรสชาติที่แตกต่างกัน แต่บางคนถึงขั้นเป็นนักสะสมความต้องการที่จะเก็บประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไวน์

 

ที่สำคัญ ‘ไวน์’ ยังเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะไวน์ที่มีคุณภาพและมีปริมาณที่จำกัด บางครั้งไวน์ที่ถูกผลิตในปีที่มีผลผลิตที่ดีหรือมีเรื่องราวหรือประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจจะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีผู้สนใจในการลงทุนด้านไวน์

 

แต่จะขยับจากนักดื่มผู้คลั่งไคล้ในรสชาติ ก้าวขึ้นมาเป็น ‘นักสะสม’ ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงอยากมาชวนอ่านการเป็นนักสะสมไวน์ 101 ในบทความนี้กัน

 

โดยคอลัมน์พิเศษนี้เกิดจากความร่วมมือของ THE STANDARD WEALTH กับ UOB Privilege Banking ที่อยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านทุกท่าน ในการเดินทางสู่การบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ และการหาความสุขที่ยั่งยืนผ่านแพสชันในไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

 

 

 

ก่อนอื่นการที่จะขยับขึ้นมาเป็นนักสะสมได้นั้น ย้อนกลับไปดูก่อนว่ามีความเข้าใจและความรู้พื้นฐานมากน้อยแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องไวน์ เช่น รู้จักไวน์โลกเก่าและโลกใหม่หรือไม่ 

 

อย่างไวน์โลกเก่าคือไวน์จากประเทศที่ผลิตมานาน 400 ปี ซึ่งเริ่มจากกรีซ (ที่ได้มาจากลุ่มแม่น้ําไทกริส-ยูเฟรตีส) ขยายไปอิตาลี ฝรั่งเศส ซึ่งตัวฝรั่งเศสเองก็ได้ครองวิวัฒนาการของไวน์ในเวลาต่อมา 

 

ส่วนไวน์โลกใหม่ ได้แก่ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู เป็นประเทศผู้ผลิตที่อยู่ในอาณานิคมของอังกฤษซึ่งได้ผลิตในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา 

 

การแบ่งไวน์เป็นโลกเก่าและโลกใหม่นั้นไม่ได้มีคุณภาพเป็นตัวกำหนด แต่เกิดจากประวัติศาสตร์หรือภูมิหลัง ซึ่งจะเป็นตัวที่ทำให้ไวน์มีคุณค่ามากขึ้นไปอีก

 

นั่นเพราะไวน์มีปัจจัยสำคัญที่ไม่ว่าเกิดขึ้นที่ไหนในโลกคือต้นองุ่น สิ่งที่ทำให้ไวน์ในยุโรปที่เป็นไวน์โลกเก่าทั้งหมด เติบโตและมีคุณภาพสูงคือดิน ซึ่งเป็นตัวแปรที่ทำให้คุณภาพของไวน์ไม่เหมือนกัน เช่น ฝรั่งเศสทำไมถึงผลิตไวน์ได้มีคุณภาพดีที่สุดในโลก เพราะว่าภูมิศาสตร์ของทวีปยุโรปในอดีตจมอยู่ใต้น้ำ ภายใต้ทะเลที่มีซากหอยซากปูทับถมกันอยู่จนเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินปูนเมื่อทวีปถูกยกขึ้นมา ซึ่งหินปูนนี่แหละที่ทำให้ไวน์มีคุณภาพสูง เพราะเมื่อน้ำซึมผ่านจะกลายเป็นน้ำแร่อันเป็นสารตั้งต้นที่ดีในองุ่น

 

ด้วยเหตุนี้ Chateau หรือผู้ผลิตไวน์ที่ทำทุกอย่างตั้งแต่การเพาะปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ จะพยายามทำให้ต้นองุ่นหยั่งรากให้ลึกที่สุด ซึ่งบางแห่งต้องการไม่ให้น้อยกว่า 3 เมตร เพื่อนำน้ำแร่มาเป็นสารอาหาร ซึ่งจะทำให้องุ่นมีรสชาติที่ดี

 

อีกเหตุผลที่ไวน์โลกเก่ามีความแตกต่างคือ ไวน์โลกใหม่นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาควบคุมการผลิตทั้งสิ้น แต่สำหรับในไวน์โลกเก่าได้ออกกฎเลยว่า ห้ามปรุงแต่งด้วยเทคโนโลยี ให้ปล่อยตามธรรมชาติ

 

เช่น ห้ามใช้พลาสติกคลุมหน้าดินเพื่อป้องกันน้ำฝน หรือปลูกในโรงเรือนเพื่อควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้องุ่นมีรสชาติที่เปลี่ยนไปได้

 

 

 

เหล่านี้ล้วนมีผลต่อไวน์ทั้งสิ้น ซึ่งหากคุณเป็นคุณที่ชอบดื่มไวน์ การหาขวดที่ถูกใจอาจเป็นเรื่องที่เพียงพอ แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่คุณอยากขยับขึ้นมาเป็นนักสะสม การมีข้อมูลที่เปรียบเหมือนอาวุธอยู่ในมือก็จะทำให้คุณได้เปรียบ

 

โดยการหาข้อมูลควรมาจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะนักวิจารณ์ไวน์ต้องเลือกจากผู้ที่ให้ความเห็นอย่างเป็นกลาง เพราะบางครั้งก็จะถูกสอดแทรกด้วยการตลาดเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาใหม่หลงเชื่อ โดยควรฟังความเห็นจากนักวิจารณ์ 3-4 คนมาประกอบเสมอ

 

สิ่งนี้เปรียบเหมือนการลงทุน ซึ่งควรมีผู้ที่เชี่ยวชาญเข้ามาให้คำแนะนำเพื่อให้การลงทุนของเราเกิดดอกออกผล ซึ่งจะกลายเป็นความมั่งคั่งในอนาคต

 

เพราะการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักสะสมไวน์ได้นั้น ความชอบอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องมีองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างคือคำว่า Wealth ซึ่งจะทำให้เราสามารถเสาะหาไวน์ที่เราชื่นชอบ ที่บางครั้งอาจมีมูลค่าที่สูงมาดื่มได้อย่างสบายใจ

 

เรื่องนี้นำมาสู่คำถามที่น่าสนใจคือ ไวน์ที่มีราคาแพงจะดื่มไหมหรือสะสมเพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว? ซึ่งหลายคนดูแลไวน์เหมือนลูกเหมือนหลาน ทำให้บางครั้งก็ตัดใจขายไม่ลง 

 

โดยไวน์นั้นไม่เหมือนทรัพย์สินอย่างอื่น เพราะมีช่วงเวลาที่สุกงอม ซึ่งหมายถึงเวลาที่ควรดื่มที่สุด โดยอาจมีระยะเวลา 20-30 ปีนับจากวันผลิต หลังจากนั้นรสชาติก็อาจจะเปลี่ยนไป ส่งผลให้ราคาลดลงไปด้วย แต่จะไม่ได้ลดลงแบบรวดเร็ว

 

 

สำหรับการดูแลไวน์นั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะสร้างเป็นห้องเก็บไวน์ (Wine Cellar) เพราะถือเป็นการลงทุนที่สูงซึ่งตามมาด้วยค่าบำรุงรักษาที่มากตามไปด้วย วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการเก็บไวน์ไว้ในตู้แช่ไวน์ที่สามารถมองเห็นได้เลยหากตู้เย็นเสีย แต่สำหรับห้องเก็บไวน์นั้น หากแอร์เสียและไม่ซ่อมให้เร็วก็อาจทำให้ไวน์ทั้งหมดที่มีเสียหายได้

 

วิธีการเก็บรักษาที่ง่ายก็เช่น การนำพลาสติกแรปอาหารมาพัน 2 รอบก่อนเก็บไวน์ในตู้เย็น ส่วนหนึ่งจะเป็นการรักษาความชื้น อีกส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้ฉลากเสียหาย ซึ่งบางครั้งความไม่สมบูรณ์ตรงนี้อาจทำให้ราคาหายไป 25% เลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบไวน์ การจะขยับไปเป็นนักสะสมได้นั้นควรเข้าอบรมหลักสูตรความรู้เกี่ยวกับไวน์ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดควรรู้ว่าไวน์ผลิตอย่างไร มีกี่ประเภท เพราะการหาข้อมูลด้วยตัวเองอาจจะไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ก็ต้องเลือกผู้สอนที่มีความน่าเชื่อถือด้วย 

 

และนอกจากความรู้แล้วก็ต้องหาวิธีสะสมความมั่งคั่งให้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้สามารถเป็นนักสะสมไวน์ที่มีความสุขมากขึ้นไปอีก

 

 

UOB Privilege Banking ให้ความสำคัญกับการบริหารความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนของลูกค้าของเราเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงความมั่งคั่งในมิติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ งานอดิเรก หรือกิจกรรมค้นหาแรงบันดาลใจ ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นที่เรา ‘ใส่ใจทุกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณ Advice for what matters to you.’ 

 

www.uob.co.th/privilegebanking

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X