ในปีที่ผ่านมา Apple และ Microsoft มีมูลค่าตลาด (Market Cap) สูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Tesla บรรลุถึงเป้าหมายที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
ใน 6 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล้วนเป็นบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา และทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว
“บริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ถูกมองว่าเกือบจะเหมือนกับกาแฟหนึ่งถ้วยในซิลิคอนแวลลีย์ในตอนนี้” แดน ไอฟส์ (Dan Ives) นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีของ Wedbush Securities บอกกับ CNBC Make It “มันแสดงให้เห็นว่าบิ๊กเทคอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเทียบได้จากการแพร่ระบาด”
Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Tesla และ Facebook ได้เพิ่ม Market Cap รวมกันกว่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2564 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ธันวาคม) มาดูกันว่าแต่ละราย Market Cap เมื่อเทียบกับต้นปีเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยเรียงจาก Market Cap ที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
Apple (เพิ่มขึ้น 30%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 2.9 ล้านล้านดอลลาร์
แม้ว่าปัญหาซัพพลายเชนจะเข้ามาขัดขวางการผลิตสินค้าดาวเด่นอย่างเช่น iPhone แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Apple ที่ก้าวสู่การมี Market Cap 2 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2020 และกำลังทะยานขึ้นสู่มูลค่าตลาด 3 ล้านล้านดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตของหุ้น 30% ในปีนี้ทำให้มูลค่าตลาดของ Apple เพิ่มขึ้นกว่า 6.598 แสนล้านดอลลาร์
Microsoft (เพิ่มขึ้น 50%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 1.7 ล้านล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 2.5 ล้านล้านดอลลาร์
บริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งโดย บิล เกตส์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีคลาวด์มากขึ้น โดยในปี 2021 เพียงปีเดียว หุ้นของ Microsoft เพิ่มขึ้น 50%
มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัททะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน และกำลังทำหน้าที่จะแซงหน้า Apple เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์
Alphabet (เพิ่มขึ้น 65%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 2 ล้านล้านดอลลาร์
บริษัทแม่ของ Google ก้าวเข้าสู่ Market Cap 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า 2 ปี หลังจากผ่านมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2020
หุ้นดังกล่าวเพิ่มขึ้น 65% ในปีนี้ โดย Alphabet รายงานว่ารายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 43% ในรายงานรายได้ครั้งล่าสุด และเอาชนะการประมาณการของนักวิเคราะห์ ซึ่งประสิทธิภาพของหุ้นได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคไว้วางใจผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลของ Google ตลอดช่วงการระบาดใหญ่
Amazon (เพิ่มขึ้น 6%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 1.6 ล้านล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 1.7 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นของ Amazon เคยขึ้นรถไฟเหาะในช่วงต้นปี 2021 ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นกว่า 17% แต่ที่สุดแล้วราคาหุ้นก็ปรับขึ้นเล็กน้อยเพียง 6% แม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับการเติบโตของยอดขายที่ชะลอตัว เนื่องจากผู้ซื้อกลับไปที่ร้านค้าและปัญหาด้านซัพพลายเชนที่กระทบความพร้อมของสินค้าบางรายการ แต่ Amazon ยังคงรายงานรายได้ 1.108 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่แล้ว
โดยไตรมาสล่าสุดของ Amazon ยังเห็นรายได้จาก Amazon Web Services การโฆษณาและการสมัครสมาชิก Prime แซงทะลุยอดฝั่งรีเทลเป็นครั้งแรก
Tesla (เพิ่มขึ้น 58%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 6.774 แสนล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 1.1 ล้านล้านดอลลาร์
Tesla เป็นหุ้นที่น่าจับตามองในปี 2020 หลังจากราคาหุ้นเติบโตมากกว่า 5 เท่า กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่ร้อนแรงที่สุดในวอลล์สตรีทและทำให้ ‘อีลอน มัสก์’ ผู้รั้งตำแหน่งซีอีโอกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และด้วยความแข็งแกร่งในปี 2021 หุ้นเติบโต 46% ในปีนี้ และ Tesla ทะยานสู่มูลค่าตลาดที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
Meta (เพิ่มขึ้น 58%)
มูลค่าตามราคาตลาดต้นปี: 7.782 แสนล้านดอลลาร์
มูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 23 ธันวาคม: 9.326 แสนล้านดอลลาร์
แม้จะมีผู้ใช้งานที่น้อยลงแต่ Facebook ก็พุ่งเข้าสู่มูลค่าตลาดที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี โดยปี 2021 ถือเป็นปีที่วุ่นวายสำหรับ Facebook รวมไปถึงเอกสารลับที่หลุดออกมา แต่กระนั้นก็แทบจะไม่กระทบกับราคาหุ้นเลย
“แม้จะมีเสียงรบกวน แต่การสร้างรายได้ของ Facebook จากผู้ใช้หลายพันล้านคนยังคงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” ไอฟส์กล่าว ปัจจุบัน Facebook กำลังมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงฟีเจอร์ Reels ซึ่งแข่งขันกับ TikTok โดยตรง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP