กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบใกล้ยึดเมืองบัคมุต (Bakhmut) ของยูเครน มากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะถูกต้านทานจากกองกำลังของยูเครนอย่างไม่ลดละ ท่ามกลางการสู้รบนองเลือดนานหลายสัปดาห์
บัคมุตเป็นเมืองเล็กๆ ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน แม้ไม่ใช่เมืองแบบเดียวกับที่มอสโกหวังว่าจะใช้เป็นสมรภูมิในปีที่ 2 ของการสู้รบ แต่การเข้ายึดเมืองนี้จะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางทหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และปูทางให้กองกำลังของรัสเซียมีโอกาสที่จะเปิดการโจมตีทางอากาศในเขตเมืองอื่นๆ ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตก
นี่คือสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัคมุต
🚩 ทำไมบัคมุตจึงตกเป็นเป้าหมายใหม่ของการแย่งชิง
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ถึงกับออกปากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28 กุมภาพันธ์) ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยูเครนในขณะนี้คือการปกป้องบัคมุต
กองกำลังรัสเซียสั่งสมกำลังมากขึ้นรอบๆ เมืองนี้ ในขณะที่กองกำลังของยูเครนก็ยังคงปักหลักไม่ยอมล่าถอย ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าที่คล้ายกับการสู้รบที่ยืดเยื้อในเมืองทางตะวันออก เช่น เมืองเซเวโรโดเนตสก์ในช่วงปีที่ผ่านมา
เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว กองกำลังภาคพื้นดินของยูเครนประกาศผ่านทาง Telegram ว่า “ศัตรูพยายามบุกทะลวงแนวป้องกันและเข้ายึดบัคมุต” ขณะที่ พ.อ. โอเลกซานเดอร์ เซียร์สกี ผู้บัญชาการกลุ่มทหารตะวันออกของยูเครน ได้ไปเยี่ยมหน่วยต่างๆ ที่กำลังปกป้องเมือง
อเล็กซานเดอร์ รอดยานสกี ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวกับ CNN เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “สถานการณ์เป็นไปอย่างยากลำบาก ไม่มีความลับเกี่ยวกับเรื่องนั้น
“รัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมเมืองอยู่ในเวลานี้ และพวกเขาใช้ทหารแวกเนอร์ (Wagner) ซึ่งเป็นกองกำลังที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและมีประสบการณ์สูง” ที่ปรึกษาผู้นำยูเครนกล่าวเสริม “เห็นได้ชัดว่ากองทัพของเราจะชั่งน้ำหนักทุกทางเลือก จนถึงตอนนี้กองกำลังของเรายังรักษาเมืองนี้ได้อยู่ แต่ถ้าจำเป็น พวกเขาจะล่าถอยทางยุทธวิธี”
กองทัพยูเครนยังยืนยันด้วยว่า กองกำลังรัสเซียกำลังว่าจ้างทหารนอกราชการจากบริษัทแวกเนอร์ ซึ่งเป็นองค์กรนักรบรับจ้างของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียพยายามเข้ายึดครองเมืองบัคมุต
🚩 เกิดอะไรขึ้นในสมรภูมิ
ยังคงมีพลเรือนประมาณ 4,500 คนอยู่ในบัคมุต ซึ่งในจำนวนนี้รวมเด็ก 48 คน ทาเทียนา อิกแนทเชงโก โฆษกหญิงแห่งหน่วยงานบริหารการทหารประจำภูมิภาคโดเนตสก์ของยูเครน เปิดเผยกับ CNN เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 มีนาคม) โดยเธอเรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองเนื่องจากอันตราย แม้ว่าในเมืองจะยังคงมีเสบียงเพียงพอก็ตาม
“ในเมืองมีอาหาร น้ำ และยา ประชาชนได้รับทุกอย่างล่วงหน้า” โฆษกหญิงกล่าว “อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องออกจากเมือง สถานการณ์ในเวลานี้อันตรายอย่างยิ่งสำหรับพลเรือน”
ขณะที่ทหารจากกองพลที่ 93 ของยูเครนกล่าวว่า กองกำลังของยูเครนยังคงปักหลักอยู่ในบัคมุต โดยไม่มีแผนถอยร่น
“เรากำลังปักหลักในบัคมุต ยังไม่มีใครยอมถอย” ทหารนายหนึ่งกล่าวผ่านวิดีโอที่โพสต์โดยกองทัพยูเครนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา “เรายืนหยัด เพราะบัคมุตคือยูเครน” นอกจากนี้ทหารนายเดียวกันนี้ยังอ้างว่า สถานการณ์ในบัคมุตค่อนข้างสงบกว่าวันก่อนๆ
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวข้างต้นตรงกันข้ามกับกองทัพยูเครนที่ออกมายอมรับว่า การรักษาเมืองนี้เป็นเรื่องยากขึ้นทุกขณะ เนื่องจากเส้นทางเข้าเมืองทางตะวันตกกำลังถูกบีบโดยกองกำลังของรัสเซีย เช่นเดียวกับทางเหนือและทางใต้ของเมือง
“สถานการณ์ในบัคมุตเป็นเรื่องยากมากในขณะนี้ มันแย่กว่าที่ทางการรายงานมาก” ทหารที่ไม่ประสงค์ออกนามเผยกับ CNN เมื่อวันอังคาร “ทหารรัสเซียรุกคืบเข้ามาทุกทิศทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางทิศเหนือ”
🚩 บัคมุตมีความหมายอย่างไรกับสงคราม
เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นโดเนตสก์ ห่างจากแคว้นลูฮันสก์ประมาณ 13 ไมล์ และตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังรัสเซียมาหลายเดือนแล้ว บัคมุตตั้งอยู่ไม่ไกลจากแนวหน้า การยึดเมืองนี้จึงแสดงถึงความสำเร็จที่กองกำลังของมอสโกตามหามานาน
บัคมุตมีถนนสายสำคัญเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของแคว้นโดเนตสก์ ขณะที่ทางตะวันออกติดกับชายแดนของแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับสโลเวียนสก์ และทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับคอสเทียนทีนิฟกา
เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่เส้นทางสู่บัคมุตค่อยๆ อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรัสเซีย โดยแทนที่จะมุ่งตรงไปยังใจกลางเมือง กลุ่มแวกเนอร์ใช้ยุทธวิธีโอบล้อมเมืองเป็นแนวโค้งกว้างจากทางเหนือ กลุ่มทหารแวกเนอร์ยึดเมืองโซเลดาร์ที่อยู่ใกล้เคียงสำเร็จในเดือนมกราคม และไล่ยึดหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของบัคมุตได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หากรัสเซียยึดพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองได้ เมืองอุตสาหกรรมคอสเทียนทีนิฟกาที่อยู่ใกล้เคียง ก็จะกลายเป็นพื้นที่ต่อไปที่ตกอยู่ภายใต้ปืนใหญ่และปืนครกที่มีพิสัยไกลกว่า ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่ากองกำลังยูเครนจะถอยร่นไปที่ใดหากพวกเขาจำเป็นต้องถอยออกจากเมืองนี้
อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การยึดบัคมุตไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงภาพรวมของสงครามในยูเครนตะวันออกมากนัก และในบางแง่อาจส่งสัญญาณถึงความล้มเหลวของรัสเซียในช่วงต้นปีที่ 2 ของการทำสงคราม เนื่องจากการยึดเมืองที่มีขนาดค่อนข้างเล็กได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยการโจมตีที่ยาวนานและมีค่าใช้จ่ายสูง
🚩 ทำไมปูตินจึงต้องการเมืองนี้
การยึดเมืองบัคมุตจะสร้างผลกระทบเชิงสัญลักษณ์ในทางบวกสำหรับประธานาธิบดีปูติน
เมื่อกองทหารรัสเซียเข้ายึดเมืองโซเลดาร์ในช่วงกลางเดือนมกราคมนั้น ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกในภูมิภาคดอนบาสในรอบระยะเวลาหลายเดือน ดังนั้นการยึดเมืองบัคมุตในอีก 6 สัปดาห์ต่อมาจะเป็นหมุดหมายต่อไปของความสำเร็จ
“ความน่ากลัวของกำลังคนรัสเซียที่ไร้ขีดจำกัดนั้นเป็นเพียงตำนาน ปูตินถูกบังคับให้เลือกทางที่ยากและไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อชดเชยความสูญเสียอันเลวร้ายในสงครามที่เขาก่อขึ้นกับกองทัพรัสเซีย และเขาจะเผชิญกับทางเลือกที่ยากเช่นเดียวกันในปี 2023 หากเขายังคงยืนกรานที่จะใช้กำลังทหารกับยูเครนและชาติตะวันตก” สถาบันวิจัยเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) ระบุในบทความอัปเดตเกี่ยวกับสถานะของกองกำลังและความสามารถในการสู้รบของรัสเซีย
“รัสเซียสามารถระดมกำลังคนได้มากขึ้น และปูตินน่าจะทำเช่นนั้นแทนที่จะยอมแพ้ แต่ค่าใช้จ่ายที่ปูตินและรัสเซียต้องจ่ายนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว” ISW ระบุ
ภาพ: Marek M. Berezowski / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: