หลังจากที่เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนคนไทยผ่าน ‘โครงการคนละครึ่ง’ ในเฟสที่ 2 เพื่อให้ประชาชนได้นำเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ที่วงเงินคนละ 3,500 บาท หรือราว 150 บาทต่อคนต่อวันนำไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เกิดความคึกคักทางอ้อม

โดยที่ประชาชนทุกคนจะสามารถใช้วงเงินช่วยเหลือดังกล่าวได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ โดยธนาคารกรุงไทย เพื่อความสะดวกสบาย 

แต่ไม่เพียงแค่ความสะดวกสบาย คล่องตัว ที่ผู้ได้รับสิทธิ์จะสามารถใช้งานวงเงินช่วยเหลือจากบนแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ทันที เวลาที่ไปจับจ่ายใช้สอยตามตลาดนัดหรือร้านอาหาร เพราะนอกเหนือจากนี้ การที่วงเงินช่วยเหลือในส่วนนี้สามารถใช้ได้บนเป๋าตังก็ยังช่วย ‘ลดข้อจำกัด’ ในหลายๆ ด้านได้อีกด้วย

ซึ่งทั้งหมดก็มีรายละเอียดที่ตัวแอปพลิเคชันเป๋าตังสามารถช่วยแก้ปัญหา และลดความยุ่งยากได้ดังนี้

1. ลดโอกาสของการ ‘ฉ้อโกง’ การแจกวงเงินสนับสนุนที่ไม่โปร่งใส

ในสมัยก่อน เงินเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้นอาจจะเป็นลู่ทางของคนที่คิดจะเอาเปรียบประชาชน โกงเงินส่วนดังกล่าวด้วยการตัดตอนคอร์รัปชันไปได้ แต่เมื่อกระบวนการทั้งหมดถูกโยกมาอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่การลงทะเบียนไปจนถึงการให้วงเงินบนแอปเป๋าตัง ก็จะลด ‘โอกาสการโกง’ ดังกล่าวไปได้อย่างมหาศาล ทำให้ความช่วยเหลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยความโปร่งใส 

ขณะเดียวกันก็ยังสามารตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของวงเงินช่วยเหลือดังกล่าวได้อีกด้วย โดยที่ประชาชนก็ยังจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐได้โดยตรงนั่นเอง

2. ได้รับความช่วยเหลือทันท่วงที รวดเร็ว

เมื่อเปิดให้แจกวงเงินช่วยเหลือสนับสนุนบนเป๋าตัง ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้รับความช่วยเหลือ สนับสนุน รวดเร็วมากขึ้น โดนทันทีที่ลงทะเบียนผ่านและได้รับการอนุมัติวงเงินคนละครึ่ง ประชาชนก็สามารถรับเงินดังกล่าวได้ทันทีบนเป๋าตัง โดยในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องก็ยังสามารถตรวจสอบ แทร็กกิ้งต้นตอปัญหาที่เกิดขึ้นได้

3. กระตุ้นเศรษฐกิจแบบ ‘คนละครึ่ง’

เมื่อเป็นโครงการภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลในคอนเซปต์ ‘คนละครึ่ง’ นั่นจึงหมายความว่าทุกครั้งของการใช้จ่าย ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะออกเงินซื้อสินค้า อาหาร ฯลฯ ในสัดส่วนครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการจ่ายเงินอัดฉีดในส่วนดังกล่าวให้กับร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า

โดยสรุปแล้วก็จะเท่ากับว่า ทั้งรัฐบาลและประชาชนหากใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งเฟส 2 นี้เต็มสิทธิ์ ก็จะเท่ากับว่ามีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยรวมมากถึง 1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว (ประชาชนและรัฐบาลฝั่งละ 5 หมื่นล้านบาทเท่าๆ กัน)

4. กรุงไทยในฐานะ ‘เครื่องมือ’ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเข้าถึงเงินสนับสนุน

ในการเข้าถึงเงินสนับสนุนในครั้งนี้บนเป๋าตังโดยธนาคารกรุงไทยนั้น ธนาคารกรุงไทยก็ถือเป็น ‘กลไก’ สำคัญในการวางโครงสร้างขั้นพื้นฐานและระบบโดยรวมของมาตรการสนับสนุนเงินเยียวยาในครั้งนี้ ซึ่งหากในอนาคตข้างหน้ารัฐบาลเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น โครงสร้างที่ทางกรุงไทยได้วางเอาไว้ก็จะยังคงอยู่และสามารถใช้งานได้ต่อไปในอนาคตโดยที่ไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น

และทั้งหมดนี้ก็คือ ‘ข้อดี’ และสิ่งที่เป๋าตังสามารถช่วยให้ประชาชนได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการต่างๆ โดยรัฐบาลได้อย่างสะดวกสบาย ไร้ปัญหาความกังวลใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ ‘คนละครึ่ง’ ที่ได้อนุมัติทั้ง 2 เฟสเท่านั้น เพราะในอนาคตหากรัฐบาลได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือใดต่างๆ ออกมาอีก ประชาชนก็จะสามารถเข้าถึงบนเป๋าตังได้ทันทีแบบครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้ยุ่งยากวุ่นวาย

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล