น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กรุงเทพมหานคร ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายงบประมาณของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านตลอดวันครึ่งที่ผ่านมาว่า
เวลานี้ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว เปรียบเหมือนการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งตนเองมั่นใจว่าในช่วงครึ่งแรกของการอภิปรายถือว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายเพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพื่อชี้ให้เห็นภาพรวมการจัดงบประมาณที่ไม่สอดคล้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ โดยพรรคร่วมรัฐบาลพยายามชี้ให้ประชาชนเห็นภาพรวมทั้งหมด
น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่าสำหรับการอภิปรายยังชี้ให้เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณซึ่งไม่ใช่แค่การจัดงบที่ไม่สอดคล้องกับปัญหา แต่พยายามชี้ประเด็นให้เห็นว่าปัญหาประเทศตั้งแต่ภาครายรับรายจ่ายเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานมาจากการรัฐประหาร
โดยในช่วงเวลาที่เหลือ ฝ่ายค้านจะอภิปรายเจาะลึกในรายละเอียดแต่ละกระทรวง ซึ่งเราก็คาดหวังว่าการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านจะทำให้ประชาชนเห็นภาพรวมการอภิปรายครบถ้วน
ด้านการชี้แจงของรัฐบาล เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุว่ายังไม่พอใจการชี้แจง เพราะทางฝ่ายค้านได้ตั้งกรอบคำถาม เนื้อหาข้อมูลค่อนข้างชัดเจน แต่รัฐบาลพยายามชี้แจงด้วยการหลีกเลี่ยงปัญหา คลุมเครือ และตอบไม่ตรงคำถาม
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายค้านเองจะให้โอกาสรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังในการตอบคำถาม และอยากจะฟังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับข้อปัญหา ซึ่งยังตอบคำถามไม่สมบูรณ์ตอบให้ตรงคำถาม ทั้งหมดคือภาพรวมในเบื้องต้น
ขณะที่ สุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ชี้ว่าภาครายรับนั้นรัฐบาลยังชี้แจงแบบไม่มีความมั่นใจ คาดหมายบนความเลื่อนลอย ที่บอกว่าจะเก็บรายได้เกินแสนล้านบาท เมื่อถามว่ามาจากไหนก็ไม่สามารถตอบแหล่งที่มาของรายได้ได้ชัดเจน ซึ่งตนเองเป็นห่วงภาครายรับมาก
อีกประเด็นคือหลายคนท้วงติงการกู้เงินและการขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้น ซึ่งสูงถึง 4 แสนกว่าล้านบาท โดยอ้างว่าไม่ใช่การกู้ทั้งหมด เพราะหากเก็บรายได้มากก็ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นการตอบคำถามที่เลื่อนลอย
สุทินกล่าวอีกว่าแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะได้ตอบคำถามเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่คลาดเคลื่อนและเป็นข้อมูลเก่า ยังเหลือหลายเรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องเจาะลึกลงไปในรายละเอียด สิ่งที่ต้องขอชื่นชมก็คือนายกรัฐมนตรีที่ขยันมาสภา แต่ก็ยังไม่มีพัฒนาการด้านอื่น
ขณะที่การลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณ น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวว่าได้มีการประชุมหารือและกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านแล้ว โดยที่ผ่านมายังดำเนินการร่วมกันตามเป้าหมายอยู่ ส่วนจะมีมติแบบไหนอย่างไรยังต้องดูการชี้แจงของรัฐบาล ซึ่งวันพรุ่งนี้หลังเที่ยงตรงจะมีการประชุมวิปฝ่ายค้านร่วมกันเพื่อพูดคุยหารือและประเมินสถานการณ์ภาพรวมร่วมกันทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะมีมติต่อ พ.ร.บ. นี้อย่างไร
เมื่อถามถึงกรณี มานิตย์ สังข์พุ่ม และตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่มีกระแสจะโหวตให้รัฐบาล
น.อ. อนุดิษฐ์ ตอบว่าตามกฎหมายเป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่เมื่อเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ร่วมกันก็ต้องดูมติของพรรค แต่เมื่อถึงเวลาการโหวตจะโหวตขัดกับมติพรรค พรรคจะมีบทลงโทษอย่างไรต้องไปดู เพราะกฎหมายให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. แต่ถึงอย่างไรพรรคก็เชื่อมั่นว่าจะเป็นการดำเนินการที่ดีที่สุดต่อประชาชน ส่วนมาตรการที่ชัดเจนต้องรอให้เกิดเหตุการณ์นั้นก่อน
“ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะไม่มีใครแหกมติ โดยฝ่ายค้านทั้งหมดตัดสินใจที่จะดำเนินการร่วมกัน เรื่อง 7 พรรคก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ซึ่งก็มีความมั่นใจว่าจะไปในแนวทางเดียวกัน และทุกคนมีเหตุมีผล เมื่อทำงานร่วมกันก็ต้องรับฟังเหตุและผลกันด้วย” น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
