พอล ชาน โม-โพ รัฐมนตรีคลังฮ่องกง ประกาศว่า ประชาชนผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในฮ่องกง จะสามารถลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาเพื่อช่วยลดผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจำนวน 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 40,000 บาท ได้ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดยเปิดให้ลงทะเบียนได้จนถึงสิ้นปีหน้า ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงจะเริ่มต้นจ่ายเงินงวดแรกเข้าบัญชีธนาคารของผู้ลงทะเบียนอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 8 กรกฎาคม และคาดว่าประชาชนฮ่องกงที่มีสิทธิ์ส่วนใหญ่จะได้รับเงินภายในสิ้นเดือนสิงหาคม
ชานกล่าวว่า หนทางที่ประชาชนจะได้รับเงินที่เร็วที่สุด คือการลงทะเบียนอิเล็กทรอนิกด้วยบัญชีธนาคารของตนกับ 21 ธนาคารที่ร่วมให้บริการ พร้อมแสดงความหวังว่าเงินที่รัฐบาลแจกให้จะถูกนำไปใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของฮ่องกงที่ทรุดหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วิกฤตประท้วงในปีที่ผ่านมา จนถึงการแพร่ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ในปีนี้
แผนจ่ายเงินเยียวยามีการประกาศออกมาในแผนใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลฮ่องกง ที่เปิดเผยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนราว 7 ล้านคน ในการลดภาระทางการเงินท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ฮ่องกงเผชิญอยู่
นอกจากนี้รัฐบาลยังเปิดช่องทางให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่ธนาคารหรือสำนักงานไปรษณีย์ โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของธนาคารที่เข้าร่วม ไปรษณีย์และสำนักงานการเคหะของฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 สัปดาห์นับตั้งแต่ลงทะเบียนก่อนจะได้รับเงิน
ทั้งนี้รัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการลงทะเบียนจะถูกเก็บไว้เป็นข้อมูลสำหรับโครงการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือในลักษณะคล้ายกันนี้ในอนาคตเท่านั้น
“เราระบุไว้ชัดเจนในแบบฟอร์มลงทะเบียนว่าข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่ถูกเก็บรวบรวมในโครงการแจกเงินครั้งนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการอื่นๆ ที่คล้ายกันในอนาคตด้วย” เจสซี หว่อง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงคลังฮ่องกงระบุ
ขณะที่รัฐมนตรีคลังฮ่องกงไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่อาจมีโครงการแจกเงินเยียวยารอบสอง เนื่องจากงบประมาณสำหรับโครงการรอบแรกนี้ คาดว่าจะใช้เพียง 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ราวครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้รัฐบาลฮ่องกงจะมีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เช่น การคืนภาษี หรีอสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณรวมกว่า 290,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1.17 ล้านล้านบาท
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
