มหาวิทยาลัยฮ่องกงเผยแพร่งานวิจัยล่าสุดที่สร้างความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลังพบความเป็นไปได้ที่เชื้ออาจสามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ โดยพบกรณีของ 2 นักเดินทางจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ติดเชื้อในโรงแรมที่กักตัวทั้งที่ไม่ได้ออกจากห้อง ซึ่งคาดว่าเชื้ออาจแพร่กระจายผ่านบริเวณโถงทางเดิน
งานวิจัยดังกล่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (3 ธันวาคม) ที่ผ่านมา ระบุว่า 2 นักเดินทาง คนหนึ่งมาจากแคนาดาและอีกคนมาจากแอฟริกาใต้ ซึ่งทั้งสองผ่านการฉีดวัคซีน Pfizer ครบ 2 โดสแล้ว และมีผลตรวจเชื้อแบบ PCR เป็นลบ ก่อนเดินทางไปถึงฮ่องกงเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน และได้เข้าพักในโรงแรมกักตัวเดียวกัน โดยอยู่ห้องตรงข้ามกัน
ข้อมูลงานวิจัยระบุว่า นักเดินทางจากแอฟริกาใต้ซึ่งคาดว่าติดเชื้อโควิดโอไมครอนตั้งแต่ก่อนเดินทาง เริ่มมีอาการป่วยและมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกในวันที่ 13 พฤศจิกายน ก่อนที่นักเดินทางจากแคนาดาจะเริ่มเกิดอาการและมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกในอีก 4 วันถัดมา
ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงแรมที่กักตัว พบว่านักเดินทางทั้งสองไม่ได้ออกจากห้องพักและไม่มีการติดต่อกับใคร ขณะที่ทีมวิจัยชี้ว่าความเป็นไปได้มากที่สุด คือมีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านทางอากาศในโถงทางเดิน โดย 2 นักเดินทางอาจได้รับเชื้อระหว่างที่เปิดประตูเพื่อหยิบอาหารที่จัดส่งไว้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน
ซึ่งกรณีที่ปรากฏส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานสาธารณสุขฮ่องกงหวั่นวิตกว่าโควิดโอไมครอนอาจสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้
“การตรวจพบการแพร่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนระหว่าง 2 บุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วผ่านโถงทางเดินในโรงแรมที่กักตัว ได้เน้นย้ำถึงความน่ากังวลที่เป็นไปได้ว่าโอไมครอนอาจแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว” ทีมวิจัยระบุ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติมโดยด่วน และอาจต้องมีการเพิ่มมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่เชื้อในระหว่างที่รอข้อมูลเพิ่มเติม
ภาพ: Photo by Marc Fernandes / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: