แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CGTN ของทางการจีนเมื่อวานนี้ (17 สิงหาคม) ว่า บัตรเครดิตของเธอเกิดปัญหาการใช้งาน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเธอ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนและฮ่องกงอีกหลายคนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
“สำหรับตัวฉันเอง แน่นอนว่ามันมีความไม่สะดวกเล็กน้อยเกิดขึ้นที่นี่ (ฮ่องกง) และที่นั่น (สหรัฐฯ) เพราะเราต้องใช้บริการทางการเงินบางอย่าง และเราไม่รู้ว่าจะไปเกี่ยวข้องกับเอเจนซีที่มีธุรกิจอเมริกันหรือไม่ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตก็เหมือนจะถูกขัดขวาง” ลัมกล่าว พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีความหมายใดๆ ที่ทำให้เธอต้องกังวล
ลัมเป็น 1 ใน 11 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคว่ำบาตรเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพุ่งเป้าไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่บังคับใช้ตั้งแต่ 30 มิถุนายน ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นการบ่อนทำลายการปกครองตนเองของฮ่องกง
ขณะที่ลัมประณามการคว่ำบาตรดังกล่าวว่าไม่เป็นธรรม และมองว่าเป็นแผนของสหรัฐฯ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง แต่มั่นใจว่าการคว่ำบาตรไม่ให้เธอเดินทางเข้าสหรัฐฯ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อความพยายามของฮ่องกงในการโฆษณาตัวเอง ในฐานะฐานของบริษัทอเมริกัน และรัฐบาลของเธอกำลังพิจารณาดำเนินการโต้แย้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
“แม้ว่าจะมีความไม่สะดวกบางอย่างในเรื่องส่วนตัวของฉัน แต่ไม่มีอะไรที่ฉันต้องเก็บเอามาใส่ใจเลย เราจะเดินหน้าทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศและเพื่อฮ่องกง”
ทางด้านบริษัท Visa และ MasterCard ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ ยังไม่ออกมาแสดงท่าทีใดๆ ต่อกรณีปัญหาการใช้บัตรเครดิตที่ผู้นำฮ่องกงกล่าวอ้าง
ขณะที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ธนาคารใหญ่หลายแห่งของรัฐบาลจีนที่ดำเนินกิจการในฮ่องกง ต่างเริ่มต้นปฏิบัติตามขั้นตอนตอบรับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลฮ่องกงแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็กำลังพยายามหาทางปกป้องการเข้าถึงเงินทุนดอลลาร์และเครือข่ายในต่างประเทศ
ส่วนธนาคารใหญ่ของจีนหลายแห่งที่ดำเนินกิจการในสหรัฐฯ ทั้ง Bank of China, China Construction Bank และ China Merchants Bank ต่างก็เพิ่มความระมัดระวังในการเปิดบัญชีใหม่แก่เจ้าหน้าที่ฮ่องกงที่ถูกคว่ำบาตรทั้ง 11 คน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: