ฮ่องกง เดินหน้าดันแผนกดดันธุรกิจบริการและท่องเที่ยวปรับตัวรับนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางกำลังซื้อสูงเข้าประเทศ หวังชิงตำแหน่งศูนย์กลางการบริหารความมั่งคั่งระดับโลก
ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าฮ่องกงยังไม่กลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเหตุการณ์ประท้วงในปี 2019 แถมรายได้จากการท่องเที่ยวก็น้อยลง เพราะนักท่องเที่ยว ชาวจีนที่เป็นหัวใจหลักใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนลดลงซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจ
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว รัฐบาลฮ่องกงจึงพยายามผลักดันมาตรการกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยว โดยกดดันให้ภาคธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของรัฐบาลฮ่องกง ได้ขอความร่วมมือกับภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมให้สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและจัดเตรียมมห้องละหมาด รองรับ นักท่องเที่ยวชาวมุสลิม จากนั้นไม่นานโรงแรมแกรนด์ไฮแอท ได้ประกาศว่าโรงแรมได้เพิ่มคัมภีร์อัลกุรอานไว้บริการในห้องพัก ควบคู่กับปรับเปลี่ยนห้องซาวน่าและอบไอน้ำ และเพิ่มตัวเลือกเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ไว้ในมินิบาร์
รวมถึง Chinesology ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางการเงินนานาชาติ (International Financial Center) เป็นที่ตั้งของสำนักงาน UBS Group AG และ Millennium Management ก็ได้ปรับเพิ่มเมนูอาหารจีน 20 รายการและเมนู ฮาลาล โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 880 – 1,388 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 4,000 – 6,500 บาท
ในช่วงเวลาเดียวกันคณะกรรมการการท่องเที่ยวฮ่องกงได้เปิดตัวเว็บไซต์ ภายใต้ชื่อ ‘Travel in Luxe Hong Kong’ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ เช่น ทัวร์ชมเมืองด้วยเฮลิคอปเตอร์, บริการช่วยจัดงาน ปาร์ตี้ส่วนตัวในสระว่ายน้ำ และ บริการพาช้อปปิ้งแบบส่วนตัว โดยมั่นใจว่าจะรองรับความต้องการนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบการเที่ยวระดับไฮเอนด์และมีความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ฮ่องกง มีประชากรมุสลิมราว 300,000 คน ปัจจุบันมีร้านอาหารฮาลาลประมาณ 180 แห่ง การปรับตัวของทุกภาคส่วนสอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลฮ่องกง ที่เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Wealth for Good in Hong Kong Summit ครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ฟาซาล บาฮาร์ดีน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CrescentRating บริษัทในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการให้คะแนนและรับรองมาตรฐานฮาลาล กล่าวต่อว่า การปรับตัวของธุรกิจโรงแรมช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในฮ่องกงได้เป็นอย่างดี นอกจากจะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้หลากหลายขึ้น ก็ยังช่วยสร้างความแข็งแกร่ง และความยั่งยืนให้กับภาคการท่องเที่ยวในประเทศได้อีกด้วย
ทั้งหมดถือเป็นการตอกย้ำว่า ฮ่องกงต้องการให้เมืองขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางการบริหารความมั่งคั่งระดับโลก เห็นได้จากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงหลายคนได้เดินทางไป เยือนกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และมุ่งเป้าไปที่ครอบครัวมหาเศรษฐีในภูมิภาค ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ฮ่องกงต้องการดึงเข้ามาลงทุนในประเทศ
อ้างอิง: