ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น Honda ออกมาประกาศว่า บริษัทมีแผนการและเป้าหมายในการเตรียมหันมาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด (EV) และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell: FCV) ที่ใช้ในการขับเคลื่อนของรถภายในปี 2040 นั่นหมายความว่าอีก 19 ปีต่อจากนี้ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในไลน์อัพของ Honda ที่วางจำหน่ายทั่วโลกจะต้องเป็นยานยนต์พลังงานสะอาดแบบ 100% นั่นเอง
เบื้องต้น Honda คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ยอดขายของรถยนต์แบบ EV และ FCV จะกินส่วนแบ่งในพอร์ตธุรกิจของบริษัทมากถึง 40% และจะขยับเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 80% ภายในปี 2035
โทชิฮิโระ มิเบะ ซีอีโอของ Honda กล่าวว่า ความตั้งใจของเขาในการนำพา Honda โลดแล่นในตลาดรถยนต์คือการมุ่งให้ความช่วยเหลือรัฐบาลญี่ปุ่นสู่เป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษให้ได้ที่ 46% ภายในปี 2030 โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 5 ล้านล้านเยน หรือราว 157 ล้านล้านบาทเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าวในอีก 6 ปีต่อจากนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
“ผมเชื่อว่านี่เป็น ‘ความรับผิดชอบ’ ร่วมของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกที่จะต้องบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้” มิเบะกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Reuters
การประกาศแผนของ Honda ในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในจังหวะที่ไล่เลี่ยกับการขยับตัวของคู่รักคู่แค้นของพวกเขา Toyota ที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งเผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ bZ4X เป็นครั้งแรกซึ่ง Toyota ตั้งเป้าจะขายรถยนต์ EV และไฮบริดเป็น 70 รุ่นในปี 2025 และจะขายรถ EV และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงให้มากกว่า 1 ล้านคันในปี 2030
นอกจาก Honda และ Toyota แล้ว ค่ายรถยนต์อย่าง General Motors, Ford, Volkswagen, Volvo ฯลฯ ก็ยังได้ประกาศแผนการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จริงจังเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ตั้งเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2050
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: