แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นสัญชาติสวีเดนอย่าง H&M วางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของแบรนด์ในเครือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น H&M, COS, Monki, & Other Stories, Arket และ Weekday ลงเหลือครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 พร้อมกับตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวไปพร้อมๆ กัน
โดยกว่าจะไปถึงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ทางบริษัทได้วางแผนทั้งด้านการลงทุนเรื่องวัสดุที่ยั่งยืน และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ให้มากขึ้น สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน และช่วยเหลือซัพพลายเออร์ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โดยในปี 2022 ทางบริษัทได้ทุ่มเงินด้านความยั่งยืนเพิ่มขึ้นไปอีก 3,000 ล้านโครนา หรือราว 10,760 ล้านบาท เพื่อพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน และเข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพกว่า 20 แห่งเข้ามาช่วยเรื่องการจัดการลูกค้า และพัฒนาวัสดุอย่างยั่งยืน
ส่วนเรื่องเป้าหมายด้านธุรกิจที่บริษัทตั้งไว้ว่าจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นับจากปี 2021 จนไปถึงปี 2030 ทาง H&M ต้องเติบโตให้ได้อย่างน้อย 10-15% ต่อปี ซึ่งแค่ในปี 2021 บริษัททำรายได้ไปทั้งหมด 15,260 ล้านโครนา หรือราว 54,750 ล้านบาท กระโดดเพิ่มขึ้นมาจากปี 2020 ถึง 392% ซึ่งเป็นปีที่บริษัทต้องปิดหน้าร้านทั่วโลกหลายสาขาทั้งชั่วคราวและถาวร
อย่างไรก็ตามเป้าหมายในเรื่องสิ่งแวดล้อมและกำไรของบริษัทอาจเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันในบางครั้ง แต่ Helena Helmersson ซีอีโอของ H&M กล่าวว่า “ไม่เพียงแค่เราจะมั่นใจว่าลูกค้าทั่วโลกจะมีตัวเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นในเรื่องของแฟชั่นและดีไซน์ แต่เราต้องแน่ใจด้วยว่าเราจะเติบโตในขอบเขตของโลกใบนี้ เราไม่ได้หมายความว่าจะเพิ่มปริมาณ เราหมายถึงการเพิ่มยอดขาย มันคือการแยกการเติบโตกับเรื่องคาร์บอน และเรื่องสภาวะอากาศออกจากกัน”
ภาพ: Ana Fernandez/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: