เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 มีนาคม) Hindenburg Research บริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มุ่งเน้นการชอร์ตหุ้น เผยแพร่บทวิเคราะห์โจมตี Block ธุรกิจผู้ให้บริการระบบชำระเงิน โดยมีอดีตซีอีโอทวิตเตอร์อย่าง แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) เป็นผู้บริหาร ซึ่งภายในบทวิเคราะห์ของ Hindenburg ระบุว่า
- Block หรือเดิมชื่อ Square เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอ้างว่าได้พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินที่ปราศจากอุปสรรค โดยมีพันธกิจตามคำว่า ‘Unbanked’ และ ‘Underbanked’
- จากการสืบสวนเป็นระยะเวลา 2 ปี พบข้อสรุปว่า Block ใช้ประโยชน์จากข้อมูลประชากร โดยอ้างว่าระบบ ‘เวทมนตร์’ ที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจของ Block ไม่ใช่นวัตกรรมที่แปลกใหม่ แต่เป็นความตั้งใจของบริษัทที่จะอำนวยความสะดวกในการฉ้อฉลต่อผู้บริโภคและรัฐบาล หลีกเลี่ยงกฎระเบียบ ปลอมแปลงสินเชื่อและค่าธรรมเนียม ซึ่งอ้างว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการและทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดด้วยการวัดเมตริกที่สูงเกินจริง
- แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่รู้สึกตื่นเต้นกับแพลตฟอร์ม Cash App ของ Block โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานที่ทำธุรกรรม 51 ล้านคนต่อเดือน และจากต้นทุนในการหาลูกค้าต่ำจะช่วยผลักดันการเติบโตของอัตรากำไร และทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในอนาคตต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่
- แต่ Hindenburg พบว่า Block ให้ข้อมูลเกินจริงถึงจำนวนผู้ใช้งานและต้นทุนของการได้มาซึ่งลูกค้า โดยอดีตพนักงานของ Block ประเมินว่า 40-75% ของบัญชีที่พวกเขาตรวจสอบเป็นบัญชีปลอม บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง หรือมีบัญชีเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่ฉ้อโกง
- หัวใจหลักของปัญหาคือ Block ยอมรับกลุ่มประชากรยากจน ซึ่งรวมถึงอาชญากรมาเป็นลูกค้า แนวทางการปฏิบัติของบริษัททำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างบัญชีจำนวนมากสำหรับการฉ้อโกงข้อมูลประจำตัวและการหลอกลวงอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นดึงเงินที่ขโมยออกไปอย่างรวดเร็ว
- Block กำลังสร้างความสับสนว่ามีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม Cash App กี่คน จากรายงานการวัดธุรกรรมที่ใช้งานอยู่ ซึ่งเต็มไปด้วยบัญชีปลอมและซ้ำซ้อน ฉะนั้น Block ควรชี้แจงให้นักลงทุนทราบถึงจำนวนผู้ใช้งานที่แท้จริงที่ใช้งาน Cash App
- ซึ่งปรากฏการณ์ของการอนุญาตให้ผู้ใช้งานที่ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นได้จากบรรดาแรปเปอร์ที่มักอวดอ้างถึงเรื่องนี้ในเพลงฮิปฮอป
- แจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอของ Block ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนถึงการที่ Cash App ถูกกล่าวถึงในเพลงฮิปฮอปหลายร้อยเพลงว่าเป็นการทำเพื่อดึงดูดกระแส แต่การตรวจสอบเพลงเหล่านั้นกลับพบว่าศิลปินไม่ได้แรปถึงการใช้งานที่ราบรื่นบน Cash App เลย แต่มีการแรปถึงการหลอกลวง ค้ายาเสพติด หรือแม้แต่จ่ายเงินสำหรับการฆาตกรรมภายในแอปดังกล่าว
- Cash App ยังถูกอ้างจนถึงตอนนี้ว่าเป็นแอปอันดับต้นๆ ที่ใช้ในการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ตามรายงานขององค์กรไม่แสวงหากำไร อีกทั้งคำร้องเรียนของกระทรวงยุติธรรมหลายฉบับพบว่า Cash App ถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าประเวณี รวมทั้งการค้าบริการผู้เยาว์
- ตัวอย่างของการบิดเบือนยังมีอีกมากมาย เช่น แจ็ค ดอร์ซีย์ มีบัญชีปลอมหลายบัญชี รวมถึงบางบัญชีที่มีจุดประสงค์เพื่อหลอกลวงผู้ใช้ Cash App แม้แต่ อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีจำนวนหลายบัญชี
- เพื่อทดสอบสิ่งนี้ Hindenburg ได้เปลี่ยนบัญชีเป็นชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ ปรากฏว่าสามารถส่งและรับเงินได้อย่างง่ายดาย เราสั่งซื้อบัตรเงินสดภายใต้บัญชี โดนัลด์ ทรัมป์ ปลอม และลองตรวจสอบเพื่อดูว่าการปฏิบัติดังกล่าวอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ Cash App หรือไม่ แต่ในเวลาต่อมาบัตรเงินสดถูกส่งมาทางไปรษณีย์โดยทันที
- ในขณะที่หุ้น Block พุ่งสูงขึ้นจากการอำนวยความสะดวกในการฉ้อโกง แจ็ค ดอร์ซีย์ และ จิม แมคเคลวีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ร่วมกันขายหุ้นมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงที่เกิดโรคระบาด ผู้บริหารคนอื่นๆ รวมถึงซีเอฟโอ อัมริตา อาฮูจา (Amrita Ahuja) และหัวหน้าผู้จัดการของ Cash App อย่าง ไบรอัน กราสสาโดเนีย (Brian Grassadonia) ก็เทขายหุ้นหลายล้านดอลลาร์เช่นกัน
- แม้สภาคองเกรสจะผ่านกฎหมายจำกัดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ที่เรียกเก็บโดยธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ Block ซึ่งมีสินทรัพย์มูลค่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็หลีกเลี่ยงกฎระเบียบเหล่านี้โดยการกำหนดเส้นทางการชำระเงินผ่านธนาคารขนาดเล็ก และควักกระเป๋าจากพ่อค้าที่มีค่าธรรมเนียมสูง
- Block มีการอ้างอิงที่คลุมเครือ โดยมีเพียงรายงานเดียวในการยื่นเอกสารที่ยอมรับว่าได้รับรายได้จากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน แต่รายงานการวิจัยของ Credit Suisse ในปี 2022 พบว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้บน Cash App มาจากแหล่งที่มาที่ไม่ชัดเจน
- โดยสรุป Hindenburg พบว่า Block ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการวัดจำนวนผู้ใช้งานที่สำคัญ และเปิดรับข้อเสนอที่เอาเปรียบผู้อื่นและใช้แนวทางปฏิบัติที่เลวร้ายที่สุด เพื่อกระตุ้นการเติบโตและผลกำไรจากการอำนวยความสะดวกให้แก่การฉ้อโกงทั้งต่อผู้บริโภคและรัฐบาล
- นอกจากนี้ Hindenburg เชื่อว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ กำลังสร้างอาณาจักรและสะสมทรัพย์สมบัติส่วนตัวมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากแจ็คและผู้บริหารระดับสูงขายหุ้นไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ จากการเติบโตครั้งใหญ่ของ Block พวกเขา (กลุ่มผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร) จึงมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะสบายดีไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ซีอีโอ Twitter ‘แจ็ค ดอร์ซีย์’ ลาออกแล้ว ขณะที่วงการคาดผันตัวรุกหนักตลาดคริปโตฯ ผ่านการพัฒนาบริการของ Square
- แจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Twitter เห็นด้วยกับการเข้าซื้อกิจการของ ‘อีลอน มัสก์’ มองเป็นทางออกที่ไว้วางใจ
- ปิดมหากาพย์ดีล Twitter! ‘อีลอน มัสก์’ ได้อะไร? จะส่งผลอย่างไรต่อบริษัทและผู้ใช้งาน?
อ้างอิง: