ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี เห็นชอบหลักการ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ประเมินงบลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท และมีผลตอบแทนมากกว่า 7 แสนล้านบาท
หลังการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2561 ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงผลการประชุมว่า ที่มีมติประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา เพื่อเป็นการดึงศักยภาพของสนามบินอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่ารายได้ให้กับประเทศ ลดการใช้น้ำมันในการเดินทาง ลดมลพิษ สร้างการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดเส้นทาง มีการจ้างงานและใช้ปัจจัยการผลิตของประเทศ และทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งโครงการดังกล่าวจะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน หรือพีพีพี โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้รับความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและความล่าช้าของโครงการ ทั้งนี้จะนำผลการประชุมดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. และคาดว่าจะสามารถเชิญภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูลโครงการได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ยืนยันใช้ระบบการประมูลแบบอินเตอร์เนชันแนล บิดดิ้ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
ทั้งนี้รัฐบาลมั่นใจว่า โครงการนี้จะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี ซึ่งประเมินรายได้จากทั้งโครงการอยู่ที่มากกว่า 7 แสนล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนรวมประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการ ให้มีการศึกษาเรื่องการขยายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษให้เชื่อมโยงจาก 3 จังหวัดเดิม ไปยังจังหวัดแนวชายแดน เช่น สระแก้ว ด้วย
