วันนี้ (22 มีนาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า ครม. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินจะเวนคืนในพื้นที่บางส่วนของกรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี และนครราชสีมา เพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่จะเวนคืนให้ถูกต้องชัดเจน
โดยร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในพื้นที่บางส่วน ดังนี้
กรุงเทพมหานคร: เขตจตุจักร, เขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง
จังหวัดปทุมธานี: อำเภอลำลูกกา, อำเภอธัญบุรี, อำเภอคลองหลวง, อำเภอสามโคก และอำเภอเมืองปทุมธานี
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: อำเภอบางปะอิน, อำเภอพระนครศรีอยุธยา, อำเภออุทัย และอำเภอภาชี
จังหวัดสระบุรี: อำเภอหนองแซง, อำเภอเสาไห้, อำเภอเมืองสระบุรี, อำเภอแก่งคอย และอำเภอมวกเหล็ก
จังหวัดนครราชสีมา: อำเภอปากช่อง, อำเภอสีคิ้ว, อำเภอเนินสูง และอำเภอเมืองนครราชสีมา
ทั้งหมดรวมเนื้อที่ได้ประมาณ 667 ไร่ และอาคาร 1,130 หลัง เพื่อก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ขนาดทาง 1.435 เมตร จำนวน 2 ทาง ระยะทางประมาณ 253 กิโลเมตร โดยมีสถานีรถไฟความเร็วสูงใหม่ จำนวน 4 สถานี และศูนย์ควบคุมการเดินรถและซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ 1 แห่ง รวมถึงก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ ทางรถยนต์ลอด และทางคนลอดใต้ทางรถไฟแทน โดยร่าง พ.ร.ฎ. มีผลใช้บังคับ 4 ปี และให้เจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิเริ่มทำการสำรวจได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีผลใช้บังคับ
ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประเมินมูลค่าโครงการแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 179,412 ล้านบาท ประกอบด้วยค่ารื้อย้ายและเวนคืน รวมถึงสัญญางานโยธา
รัชดากล่าวด้วยว่า เมื่อก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงตามโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะเป็นการพัฒนาระบบรางของไทยให้มีความเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ อันเป็นการเสริมศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาค ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดแผนการดำเนินโครงการคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569