สงครามหุ้นระหว่าง ‘นักลงทุนสถาบัน’ กับ ‘นักลงทุนรายย่อย’ ผ่านหุ้น GameStop ยังไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุด CNBC ระบุว่าการพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งของหุ้น GameStop (GME) ส่งผลให้ผู้ขายชอร์ต หรือผู้ที่ยืมหุ้นมาขายเพื่อเก็งกำไรช่วงขาลง (Short Sellers) ในหุ้นตัวนี้ต้องสูญเงินไปรวมกันเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6 แสนล้านบาท) ในเดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะยังไม่ยอมแพ้
กองทุนเฮดจ์ฟันด์หลายแห่งต้องเจ็บปวดกับผลขาดทุนจากสถานะชอร์ตหุ้น GameStop ซึ่งทำธุรกิจร้านขายเกมแบบดั้งเดิม โดยผลขาดทุนจากการ Mark-to-market สูงถึง 1.975 หมื่นล้านดอลลาร์ นับแต่เข้าสู่ปี 2021 ซึ่งรวมถึงการขาดทุนเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากราคาหุ้นยังคงวิ่งขึ้นต่อเนื่อง อ้างอิงจากข้อมูลของ S3 Partners
จากสถานะชอร์ตที่ไม่ได้ลดลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนว่าเหล่านักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงถือสถานะชอร์ตต่อไป หรืออาจจะมีเฮดจ์ฟันด์รายใหม่ๆ เข้ามาชอร์ตหุ้น GameStop แทนที่นักลงทุนกลุ่มเดิมที่ออกไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานะชอร์ตถูกขายออกไปเพียงประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ ทำให้สถานะคงค้างลดลงเพียง 8% โดยการปิดสถานะส่วนมากเกิดในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (26 มกราคม) ซึ่งเป็นวันที่ราคาหุ้น GameStop ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ
“มีการพูดกันว่าสถานะชอร์ตของ GameStop ถูกปิดไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันไม่เป็นความจริง จากข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าสถานะชอร์ตไม่ได้ลดลงไปมากนัก” อีวอร์ ดูซานนิวสกี กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์แบบพยากรณ์ของ S3 กล่าว
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GameStop วิ่งกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 มกราคม) ที่ผ่านมา หลังจากที่ Robinhood (แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้น) กล่าวว่าได้เปิดให้นักลงทุนกลับมาซื้อขายหุ้น GameStop ได้ตามปกติโดยที่ไม่มีการจำกัดใดๆ ส่งผลให้ราคาหุ้น GameStop เพิ่มขึ้น 400% ในสัปดาห์ก่อน และปรับขึ้นกว่า 1,600% ตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันการพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งของหุ้น GameStop ยังส่งผลกระทบไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นอย่าง Robinhood ซึ่งได้จำกัดการซื้อขายหุ้น ทั้งการปิดไม่ให้ซื้อขายและไม่ให้ใช้วงเงินกู้ (Leverage) ในการซื้อขาย จนทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเพราะว่า Robinhood ให้ความช่วยเหลือนักลงทุนสถาบันบางราย อาทิ Citadel ซึ่งเป็นมีสถานะชอร์ตหุ้น GameStop อยู่ก่อนหน้านี้
ล่าสุด วาลัด ทาเนฟ ซีอีโอ ของ Robinhood ได้เปิดเผยผ่าน Yahoo! Finance ว่าทฤษฎีที่บอกว่าเฮดจ์ฟันด์อย่าง Citadel เข้ามามีอิทธิพลกับการตัดสินใจของ Robinhood เป็นเพียง ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ (Conspiracy Theory)
“การตัดสินใจที่จะจำกัดการซื้อขายหุ้น GameStop เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสี่ยงของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของตลาดและกฎเกณฑ์ของระบบหลังบ้านตามปกติ”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: