วานนี้ (18 กรกฎาคม) กระทรวงสาธารณสุขสเปนรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อน 510 รายในช่วงสัปดาห์แรกของคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลให้บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส
สถาบันสุขภาพคาร์ลอสที่ 3 สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า พบกลุ่มผู้เสียชีวิตข้างต้นระหว่างวันที่ 10-16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ 150 ราย โดยระบบติดตามการเสียชีวิตรายวันของสถาบันฯ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะคลื่นความร้อนทวีความรุนแรงขึ้น
ระบบดังกล่าวชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จาก 15 ราย เป็น 60 ราย ในระยะเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10-13 กรกฎาคม จากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 93 รายเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม และ 123 รายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ก่อนจะแตะระดับสูงสุดที่ 150 รายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเผยแพร่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของวันที่ 17 กรกฎาคม
สภาพอากาศร้อนส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ โดยจากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 510 ราย พบว่า เป็นผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป จำนวน 321 ราย อายุระหว่าง 75-84 ปี จำนวน 121 ราย และอายุระหว่าง 65-74 ปี จำนวน 44 ราย
อย่างไรก็ดี ยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตในกลุ่มประชากรอายุน้อยกว่า รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศบาลในกรุงมาดริดที่เสียชีวิตจากโรคลมแดดจำนวน 2 ราย ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นปรับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้คนงานไม่ต้องทำงานกลางแจ้งในช่วงอากาศร้อนที่สุดของวัน ทั้งยังพบนักดับเพลิงและคนเลี้ยงแกะเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าที่กำลังลุกลามในสเปน รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ทางตอนใต้ของยุโรป
ทั้งนี้ คลื่นความร้อนครั้งนี้นับเป็นระลอกที่ 2 ในช่วงฤดูร้อนของสเปน โดยระลอกแรกกินเวลาตั้งแต่วันที่ 11-17 มิถุนายนที่ผ่านมา และคร่าชีวิตผู้คน 829 รายทั่วประเทศ
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว