21 มิถุนายนปีที่แล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กับครอบครัว คนใกล้ชิด และท่ามกลางสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมกระทั่งสื่อมวลชนที่ติดตามรายงานข่าวเธออยู่เป็นประจำ
ประโยคที่เธอกล่าวในวันนั้นมีน้ำตาของความอัดอั้นตันใจไหลสำทับออกมาจากนัยน์ตาของเธอด้วยว่า “วันเกิดทุกคนรอฉลองอย่างมีความสุข แต่ในปีนี้ได้แต่รอโชคชะตา สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต หวังว่าวันเกิดปีนี้จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา และคาดหวังว่าจะมีโอกาสมาทำบุญวันเกิดแบบนี้ในปีหน้าอีก”
นั่นคือเหตุการณ์เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2560 ถัดมาอีก 3 เดือนของปีเดียวกัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้อดีตนายกฯ ต้องรับโทษจำคุก 5 ปี เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560
พรที่ขอไว้ไม่สมหวัง
แต่ทว่า 1 เดือนก่อนหน้านั้น เธอถูกศาลออกหมายจับเพราะไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งวันดังกล่าวมวลชนและสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งครอบครัวของของอดีตนายกฯ เดินทางมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
แต่แล้วข้ออ้าง ‘น้ำในหูไม่เท่ากัน’ ก็ไม่สามารถทำให้ศาลเชื่อได้ว่าเธอมีอาการเช่นนั้นจริง เป็นจุดเริ่มต้นของพฤติการณ์หลบหนี และหนีไปอยู่ที่ใดไม่ปรากฏร่องรอย จนชัดแจ้งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง
และแน่นอนว่าพรที่เธอขอระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า ปีหน้า ซึ่งหมายถึงปี 2561 จะมีโอกาสมาทำบุญแบบนี้อีกครั้ง จึงเป็นพรที่ไม่สมหวังอย่างแน่นอนแล้ว เพราะปีนี้ อดีตนายกฯ ต้องฉลองวันเกิด ณ ต่างแดน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ตามที่มีรายงานข่าวมาก่อนหน้านี้ ด้วยปรากฏภาพของเธอและพี่ชาย นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วยแฟนคลับจากไทย บินไปพบปะให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
ชะตากรรมสองพี่น้องชินวัตร
ชะตากรรม ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ สองพี่น้องอดีตนายกฯ แห่งตระกูลชินวัตร เวลานี้ดูจะมาบรรจบในเส้นทางเดียวกัน หลังทักษิณถูกรัฐประหารปี 2549 เขาได้กลับมาไทยในปี 2551 หากจำได้ดี ภาพการก้มลงกราบพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิคือซีนที่ลือลั่นของการเมืองไทยมาจนถึงเวลานี้ เขาได้ฉลองวันเกิดในไทยอีกครั้ง แต่ก็ได้ใช้ชีวิตที่ไทย แผ่นดินเกิดเพียงสั้นๆ เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากจำคุกทักษิณ 2 ปี จากคดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ปิดประตูตายการเดินทางกลับไทย แต่ก่อนมีคำพิพากษา เขาได้เดินทางไปยังต่างประเทศล่วงหน้าแล้ว นั่นจึงเป็นการฉลองวันเกิดครั้งสุดท้ายของทักษิณในไทย นับเนื่องจนถึงปัจจุบันก็ 10 ปีพอดี
เช่นเดียวกับกรณีของยิ่งลักษณ์ ปีนี้เธอจะไม่ได้ฉลองวันเกิดที่ไทย และด้วยเงื่อนไขทางการเมืองและกฎหมาย ทำให้ยังมองไม่เห็นทางหรือโอกาสของการกลับมาสู่มาตุภูมิ ทำให้ปีนี้จะถูกนับเป็นปีแรกที่ยิ่งลักษณ์ไม่มีโอกาสฉลองวันเกิดที่ไทย หลังลงจากเก้าอี้นายกฯ และยังไม่รู้ว่าจะยาวนานอีกกี่ปีต่อจากนี้
วันเกิด วันเช็กพลพรรค
แต่แน่นอนว่าเขาและเธอจะไม่เพียงแค่ฉลองวันชื่นคืนสุข ร้องเพลง Happy Birthday อยู่แค่วงจำกัดในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเท่านั้น เพราะงาน ‘วันเกิด’ คืองานสำคัญ ที่นัยประวัดหนึ่งในทางการเมืองใช้เป็นพื้นที่สำหรับเช็กบารมี ตรวจสอบความมั่นคงต่อจุดยืนของ ‘ผู้เล่น’ ที่เป็นอดีต ส.ส. และคนที่อยากเข้าสู่สนามการเมือง ซึ่งจะได้ใช้โอกาสนี้แสดงตัวตน และขณะเดียวกันก็เป็นการประกาศหรือสำแดงให้เห็นว่า เขาเเละเธอยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในอนาคตทางการเมืองของใครอีกหลายคน
มีรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดของอดีตนายกฯ หญิงคนแรกของไทยว่า อดีต ส.ส. ได้คิวเดินทางไปร่วมอวยพรวันเกิดในเดือนกรกฎาคม มีการจัดคิวตามลำดับด้วย เพราะคาดว่าจะมีอดีต ส.ส. และบุคคลที่ตัดสินใจจะร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยเดินทางไปร่วมงานนี้จำนวนมาก
ท่ามกลางกระแส ‘พลังดูด’ ของการเมืองไทยยามนี้ วันเกิดของยิ่งลักษณ์จึงเป็นมากกว่าการเฉลิมฉลองแบบธรรมดา หากแต่นี่คือ ‘หมุด’ ที่กำลังจะปักลงอีกครั้งว่า ของแท้ ของเทียม จะได้รับการเคาะและการันตีจากเขาและเธออย่างไร รวมถึงต้องจับตาถึงท่าทีและการประเมินเกมต่อฝ่ายที่พยายามเดินสายดูด ดักตีป้อมค่ายฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทย ทั้งวงนอกวงในให้แตกพ่ายเป็นรายวันว่าจะมีวิธีการรับมือและสร้างความมั่นใจให้กับคนในไม่ให้แพแตกอีกอย่างไรบ้าง
ได้ฉลองวันเกิดช่วงเดียวกับที่ประยุทธ์ไปอังกฤษ
หลังการหลบหนีออกจากไทยของยิ่งลักษณ์ในรอบหลายสัปดาห์ต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ปรากฏภาพของอดีตนายกฯ และพี่ชาย เดินสายท่องเที่ยวในหลายประเทศ ตั้งแต่ สิงคโปร์ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และล่าสุดกรุงวอชิงตันและนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนเดินทางกลับมาที่ลอนดอน เพื่อฉลองวันเกิดของน้องสาว ที่มีรายงานว่าได้รับวีซ่าจากอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งสร้างแรงสะเทือนให้ คสช. เสียรังวัดในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ยากยิ่งขึ้น
ให้ประจวบเหมาะกันพอดีที่การฉลองวันเกิดปีที่ 51 ของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตรงกับช่วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. มีกำหนดการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ ซึ่งออกเดินทางเมื่อวานนี้ และวันนี้เป็นวันที่ 2 ก่อนมีกำหนดเข้าหารือข้อราชการกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิง
ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้หยิบยกการเดินทางไปอังกฤษของนายกฯ ว่าจะมีการหารือกับรัฐบาลอังกฤษถึงการขอตัว 2 พี่น้องอดีตนายกฯ ไทยกลับมาดำเนินคดีหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ ตอบคำถามนี้ว่า จะไม่มีการหารือในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ต้องมีการพูดคุยกันในระดับนายกรัฐมนตรี เพราะมีหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประสานงานกันอยู่แล้ว
สำหรับการเดินทางไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศสของ พล.อ. ประยุทธ์ ในครั้งนี้ พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไทยกับประเทศในภูมิภาคยุโรปอาจมีข้อจำกัดของการติดต่อบางประการ แต่หลังจากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศได้มีข้อมติเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ฟื้นการปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองในทุกระดับกับประเทศไทยแล้ว จึงได้เชิญ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส สะท้อนให้เห็นว่า “ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา การบริหารราชการของรัฐบาลได้รับการยอมรับ”
2 เหตุการณ์ก่อนนายกฯ เยือนอังกฤษ
สองเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นก่อนหน้า พล.อ. ประยุทธ์ เดินทางไปอังกฤษ ก็คือการประกาศถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งในไทยว่า การเลือกตั้งจะเกิดหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขณะเดียวกันศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 2 ปี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เนื่องจากการออกพาสปอร์ตให้ทักษิณเป็นการเอื้อประโยชน์ ขัดต่อหลักกฎหมาย เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
2 เหตุการณ์มาประจวบเหมาะในเวลาเดียวกัน ทำให้ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองต้องประเมินเงื่อนไขเหล่านี้ประกอบกันไปด้วยว่า อนาคตและทิศทางของประเทศจะไปแบบไหน ขณะที่กรณีของทักษิณ เป็นการยืนยันชัดแจ้งว่าสถานะของเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยคำพิพากษาที่เป็นไปตามกฎหมายที่ชี้ให้เห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามีความพยายามช่วยเหลือเขาอย่างไรให้มีสถานะในการเดินทางไปมาในต่างประเทศโดยไม่ต้องผิดกฎหมาย และไม่เสี่ยงต่อการถูกส่งกลับหรือเข้าสู่มาตรการการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
อีกไม่กี่เดือน เข็มนาฬิกาจะวนครบรอบปี เพื่อบอกเวลาถึงการเดินทางหนีออกจากประเทศไทยของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลายคนบอกว่าเผลอแป๊บเดียว เวลาเดินไว แต่เชื่อเหลือเกินว่าเข็มนาฬิกาของอดีตนายกฯ ช่วงหนึ่งน่าจะอยากหมุนทวน หรือแม้แต่หยุดไว้ที่ห้วงเวลาแห่งความสุขในไทย ในที่ที่หลายคนยังคงเดินหน้ารุกไล่เธอไม่หยุดหย่อนตลอดช่วงเวลาเดียวกันนี้
Cover Photo: จรัล อัมพรกลิ่นแก้ว