หนึ่งในข่าวใหญ่ที่สื่อทั่วโลกต่างจับตาในสัปดาห์นี้ คือเหตุไฟป่ารุนแรงที่เกิดขึ้นในเกาะเมาวีและเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ (Big Island) ของหมู่เกาะฮาวาย โดยเปลวเพลิงที่รุนแรงราวไฟนรกได้เผาผลาญพื้นที่กว่า 80% ของเมืองลาไฮนา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะเมาวีจนราบเป็นหน้ากลอง อาคารราว 1,700 หลังถูกเผาทำลาย และมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 53 คนด้วยกัน ขณะที่ผู้คนราว 1,000 คนยังสูญหาย ไม่ทราบชะตากรรม
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมไฟป่าครั้งนี้จึงรุนแรงยิ่งนัก สามารถหาคำตอบได้ในบทความชิ้นนี้
-
เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้อย่างไร
เหตุไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นในช่วงดึกของวันอังคารที่ผ่านมา (8 สิงหาคม) จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศสาเหตุที่แน่ชัด แต่ถึงเช่นนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เอื้อให้เกิดไฟป่า โดยก่อนหน้านี้ บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศเตือนว่าหมู่เกาะฮาวายจะเผชิญกับกระแสลมแรงและสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ซึ่งสภาพการณ์ดังกล่าวถือเป็นภาวะที่ช่วยโหมกระหน่ำให้เปลวเพลิงรุนแรงได้มากขึ้นกว่าเดิม
หากเราย้อนดูสถิติในอดีตจะพบว่า เกือบ 85% ของเหตุไฟป่าในสหรัฐฯ ล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ (อ้างอิงข้อมูลจาก U.S. Forest Service) ส่วนสาเหตุทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดไฟป่า เช่น ฟ้าผ่า และภูเขาไฟระเบิดนั้นมีเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างน้อย โดยหมู่เกาะฮาวายมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ทั้งหมด 6 แห่งด้วยกัน รวมถึงภูเขาไฟ 1 ลูกในเกาะเมาวี
และหากดูจากเหตุการณ์ไฟป่ารอบโลก จะเห็นได้ว่าสภาพอากาศที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงอย่างผิดปกติในยุโรปและทางตะวันตกของแคนาดา โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ‘ภาวะโลกรวน’ ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นจากกิจกรรมการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลของมนุษย์ ทำให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่ถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
-
เหตุใดไฟป่าครั้งนี้จึงรุนแรงยิ่งนัก
หลักๆ เลยคือกระแสลมแรง ซึ่งเป็นอิทธิพลมาจากเฮอริเคนโดรา ที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะฮาวายไปทางตะวันตกเฉียงใต้หลายร้อยไมล์ในมหาสมุทรแปซิฟิก แรงลมส่งผลให้เปลวเพลิงโหมกระหน่ำลุกโชนจนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
นอกเหนือจากเฮอริเคนโดราแล้ว ระบบความกดอากาศต่ำที่เกิดขึ้นในแนวของกระแสลมตะวันตกก็มีส่วนทำให้เกิดลมแรงสูงเช่นกัน และเมื่อมาเจอกับพืชพันธุ์กลางสภาพอากาศแห้งแล้งก็ยิ่งทำให้ติดไฟได้ง่าย
เคลย์ ทรูเออร์นิชต์ (Clay Trauernicht) นักวิทยาศาสตร์อัคคีภัยแห่ง University of Hawaii กล่าวว่า ฤดูฝนของฮาวายในช่วงที่ผ่านมากระตุ้นให้หญ้ากินนี (Guinea Grass) อันเป็นพืชชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน ซึ่งพบได้ทั่วไปในพื้นที่ต่างๆ ของเกาะเมาวีเติบโตงอกงาม โดยมันสามารถโตได้เร็วถึง 15 เซนติเมตรต่อวัน และสูงเต็มที่ได้ถึง 3 เมตร โดยหญ้าเหล่านั้นถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ไฟลามไปอย่างรวดเร็ว
-
เกิดไฟป่าขึ้นที่ไหนบ้าง
ไฟป่าสร้างความเสียหายอย่างหนักในเมืองลาไฮนา อันเป็นเมืองตากอากาศริมชายหาดที่มีประชากรราว 13,000 คนทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเมาวี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของฮาวาย ด้วยทัศนียภาพแสนสวย เมืองแห่งนี้จึงสร้างรายได้อย่างงดงามให้กับฮาวาย ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวถึง 2 ล้านคนต่อปี
จอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย เปิดเผยว่า พื้นที่ 80% ของเมืองลาไฮนาถูกเผาราบ ขณะที่มีอาคารราว 1,700 แห่งได้รับความเสียหาย
นอกจากเมืองลาไฮนาแล้ว พื้นที่รอบเมืองคิเฮอิ (Kihei) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะเมาวีก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ขณะที่ไฟป่ายังได้เผาทำลายพื้นที่หลายแห่งของเขตคูลา (Kula) รวมถึงพื้นที่บางส่วนของเกาะบิ๊กไอส์แลนด์
-
โลกรวนมีส่วนทำให้ไฟป่าครั้งนี้แรงหนักกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่
แม้ภัยพิบัติครั้งนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกันอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ภาวะโลกรวนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยจากการที่อุณหภูมิสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้มีโอกาสเกิดเฮอริเคนที่แรงขึ้นอีกด้วย ซึ่งในทางกลับกัน พายุเหล่านั้นก็จะกระตุ้นให้เกิดกระแสลมแรงขึ้นได้ เช่น เฮอริเคนโดราที่อยู่เบื้องหลังเหตุไฟป่าในเกาะเมาวี
เคลซีย์ โคเปส-เกอร์บิตซ์ (Kelsey Copes-Gerbitz) นักวิจัยหลังปริญญาเอกจากคณะวนศาสตร์แห่ง University of British Columbia กล่าวว่า ภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกรวนในปัจจุบันนี้ ‘รุนแรงไปไกลกว่าที่โลกคุ้นเคย’ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่นำไปสู่หายนะ
ด้านผู้ว่าการรัฐฮาวายเองก็ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือผลพวงจากภาวะโลกรวนที่มนุษย์ทุกคนร่วมกันก่อ โดยกล่าวว่า “เราไม่เคยเจอกับไฟป่าที่ส่งผลกระทบกับเมืองรุนแรงเช่นนี้มาก่อน” พร้อมระบุว่า เขารู้สึกช็อกที่เห็นว่าอิทธิพลจากเฮอริเคนโดราส่งผลกระทบต่อไฟป่าได้รุนแรงถึงเพียงนี้
“สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่ไฟป่าในแคลิฟอร์เนียไปจนถึงโคโลราโด…นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากเราเผชิญกับภาวะโลกร้อนบวกกับพายุและภัยแล้งที่รุนแรง
“ภาวะโลกรวนกำลังเกิดขึ้นที่นี่ และส่งผลกระทบอย่างหนักหนาต่อหมู่เกาะฮาวาย”
ภาพ: Patrick T. Fallon / AFP
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/us/live-news/maui-wildfires-08-10-23/index.html
- www.theguardian.com/us-news/2023/aug/09/hawaii-wildfires-maui-explainer
- www.bbc.com/news/live/world-66461158
- www.reuters.com/world/us/how-did-hawaii-wildfires-start-what-know-about-maui-big-island-blazes-2023-08-10/