ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงบนเกาะเมาวีของรัฐฮาวายพุ่งแตะ 67 คนแล้ววานนี้ (11 สิงหาคม) ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นเพื่อค้นหาผู้ที่รอดชีวิตบนซากปรักหักพังของเมืองลาไฮนา ส่วนเจ้าหน้าที่ของฮาวายพยายามเดินหน้าหาสาเหตุว่าไฟป่านั้นลามกระจายไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร
เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ฮาวายเคยเผชิญมา โดยยอดผู้เสียชีวิตปัจจุบันพุ่งทะลุยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิที่คร่าชีวิตประชาชนถึง 61 คนเมื่อปี 1960
ทั้งนี้ ทางการระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นได้อีก เพราะเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยสุนัขกู้ภัยอาจพบกับร่างไร้วิญญาณที่ติดอยู่ในซากอาคารกว่า 1,000 แห่งที่ถูกเพลิงเผาไหม้วอด ขณะที่ประชาชนหลายพันคนตอนนี้ไร้ที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าการฟื้นฟูเมืองขึ้นใหม่อีกครั้งอาจใช้เวลานานหลายปี รวมถึงต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีประชาชนบางส่วนที่แสดงข้อกังขาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจแจ้งเตือนไม่ดีพอหรือไม่ โดยเกาะแห่งนี้มีไซเรนฉุกเฉินเพื่อเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยคุกคามอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ส่งเสียงขณะเกิดไฟป่า ซึ่งจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ว่าจะมีการตรวจสอบไซเรนเตือนภัยเหล่านั้นว่าได้ทำงานปกติหรือไม่อย่างไร
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของฮาวายไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ว่ามีการส่งข้อความแจ้งเตือนไปในลักษณะใด หรือพวกเขาได้ส่งข้อความทางมือถือ อีเมล หรือโทรศัพท์แจ้งเตือนประชาชนหรือไม่ แต่กรีนก็ได้อธิบายถึงอุปสรรคหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในเวลานั้น ทั้งระบบโทรคมนาคมล่ม รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังให้ความสนใจกับเหตุไฟป่าอื่นๆ ขณะที่เหตุไฟป่ากำลังปะทุขึ้นที่เมืองลาไฮนา
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทยรายงานสถานการณ์ว่า จำนวนคนไทยในรัฐฮาวายตาม Census 2020 ของสหรัฐอเมริกา มีประมาณ 5,000 คน แต่ยังไม่มีความชัดเจนถึงจำนวนคนไทยที่พำนักบนเกาะเมาวี ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้ประสานชุมชนไทยในพื้นที่แล้ว โดยทราบว่ามีคนไทยจำนวนหนึ่งได้อพยพไปอยู่ศูนย์ที่พักฉุกเฉินของทางการแล้ว ขณะที่บางส่วนได้ย้ายไปพำนักตามบ้านเพื่อน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้แจ้งให้ชุมชนไทยในพื้นที่ช่วยกันแจ้งช่องทางติดต่อของตนให้สถานกงสุลใหญ่ฯ ทราบผ่านทางกรุ๊ปไลน์ Maui rescue ด้วย ส่วนนักศึกษาจากโครงการ Work and Travel ทั้ง 12 คนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะมีนักศึกษาบางส่วนหนังสือเดินทางหายไปในห้วงสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ จะช่วยดูแลให้ต่อไป และหากคนไทยเผชิญกับเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ผ่านไลน์ @thaiconsulate.la
ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images
อ้างอิง: