×

พูดคุยกับผู้บริหาร HAUS NOWHERE BANGKOK ถึงการบุกตลาดไทย และการร่วมงานกับ Felix วง Stray Kids

15.12.2025
  • LOADING...
haus-nowhere-bangkok-launch-iconsiam-gentle-monster

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่านักช็อปชาวไทยต่างคุ้นเคยชื่อของ HAUS NOWHERE ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เป็นอย่างดี เพราะอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงร้านค้าขายสินค้าแว่นตา Gentle Monster คาเฟ่ขนมหวาน NUDAKE หรือเครื่องหอมสุดเก๋อย่าง TAMBURINS เท่านั้น แต่ที่นี่เป็นพื้นที่ที่นำเสนอไอเท็มแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ ผ่านมุมมองของศิลปะที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำไว้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านสุดฟิวเจอริสติก เทคโนโลยีหุ่นยนต์ หรือการดีไซน์งานอินสตอลเลชันอาร์ตในร้าน

 

ซึ่งหลังจากนี้ สาวกชาวไทยที่ชื่นชอบร้านและแบรนด์ดังใน HAUS NOWHERE อย่าง TAMBURINS หรือ Gentle Monster ก็ไม่ต้องบินไปชมสโตร์ไกลถึงโซลอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ HAUS NOWHERE BANGKOK เปิดตัวที่ไอคอนสยามอย่างเป็นทางการในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมยังนำเสนอร้านที่มีรูปโฉมดีไซน์โดดเด่นและล้ำสมัยไม่แพ้กันกับสโตร์ที่เกาหลีใต้อีกด้วย

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

โดยเบื้องหลังการนำ HAUS NOWHERE มาเปิดตัวที่กรุงเทพฯ ย่อมต้องมีทีมงานเบื้องหลังที่เข้าใจในอินไซต์ของเหล่านักช็อปชาวไทยเป็นอย่างดี THE STANDARD POP จึงใช้โอกาสนี้เพื่อสัมภาษณ์พิเศษกับประธานกรรมการบริหาร IICOMBINED Thailand อย่างคุณสลิล สุญาณเศรษฐกร ผู้นำพื้นที่รีเทลสุดล้ำจากเกาหลีใต้มาเปิดในเมืองไทย มาพูดคุยเกี่ยวกับการเปิดพื้นที่แห่งนี้ ทั้งในเรื่องความท้าทายของการทำงาน การนำเสนอมุมมองใหม่ให้กับลูกค้าว่าที่แห่งนี้เป็นมากกว่าเรื่องของการช็อปปิ้ง รวมทั้งการร่วมงานกับ Felix วง Stray Kids ที่เขาเพิ่งมาเยือนเมืองไทยในฐานะแขกคนสำคัญของแบรนด์ TAMBURINS ด้วยเช่นกัน

 

ทำไมถึงเลือกเปิด HAUS NOWHERE BANGKOK ที่ไอคอนสยามเป็นที่แรก อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลือกที่นี่

 

ขอย้อนไปว่า HAUS NOWHERE เป็นเหมือน A Space of Nowhere เป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น HAUS NOWHERE แต่ละที่ก็จะมีแค่เมืองเดียว ที่กรุงเทพฯ ก็จะมีที่เดียว ยกเว้นที่โซลจะมี 2 แห่งค่ะ โดยคำว่า HAUS NOWHERE เกิดจากคอนเซปต์ที่อยากรวมแบรนด์ต่างๆ ของ IICOMBINED สร้างพื้นที่เพื่อให้ทุกแบรนด์อยู่ในพื้นที่เดียวเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์กับทุกแบรนด์ด้วยความสนุกสนานและตื่นเต้น

 

ตอนนี้เรามีทั้งหมด 5 แบรนด์ ตอนแรกมี Gentle Monster เป็นแบรนด์แว่นตาที่หลายคนคุ้นเคย ตามมาด้วย TAMBURINS ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำหอม NUDAKE ที่เป็นคาเฟ่ แบรนด์หมวกแบบ ATiiSSU และ Nuflaat ซึ่งเป็นเครื่องจานชามและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน แต่สามารถมารวมกันอยู่ใน HAUS แห่งนี้ได้ และเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร

 

HAUS NOWHERE BANGKOK ถือเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นเราจึงอยากให้เป็นจุดศูนย์กลาง เป็นโลเคชันที่สำคัญ เพราะมันจะมีที่เดียวในกรุงเทพฯ ไอคอนสยามจึงเหมาะกับคอนเซปต์นี้เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ลูกค้าทั่วโลกอยากจะมา 

 

ตำแหน่งที่ตั้งของไอคอนสยามก็โดดเด่นมาก เพราะเป็นห้างที่อยู่ติดริมแม่น้ำ เป็นคอนเซปต์ที่ยังไม่มีที่ไหนในกรุงเทพ เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในห้างก็อยากได้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่ห้างธรรมดา แต่มีการเชื่อมโยงเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆ มีงานอาร์ตอินสตอลเลชัน มีตลาดต่างๆ ที่ชั้นล่างด้วย เราคิดว่ามันเป็นศูนย์รวมสิ่งต่างๆ ที่เหมาะจะเป็นจุดหมายปลายทางของเรา ดังนั้นไอคอนสยามจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับการเปิด HAUS NOWHERE BANGKOK ค่ะ

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

IICOMBINED มองเห็นอะไรในกลุ่มลูกค้าคนไทย ทำไมถึงเลือกที่จะเปิด HAUS NOWHERE ในประเทศไทย

 

คนไทยเป็นผู้นำแฟชั่นมากนะคะ คนไทยติด Top 5 ของกลุ่มคนที่ซื้อสินค้าจากเกาหลีหรือญี่ปุ่น และลูกค้าคนไทยเป็นกลุ่มคนที่มองหาความแตกต่างและพิเศษ ดังนั้น TAMBURINS หรือ Gentle Monster ก็เลยตอบโจทย์คนไทย

 

อย่าง TAMBURINS ที่เป็นเครื่องหอมที่มีความเฉพาะตัว มีกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร เราจะครีเอตกลิ่นใหม่เสมอ เช่น ทำไมเราถึงนำกลิ่น Puppy เข้ามา เพราะมีการสำรวจว่ามีกลุ่มคนที่รักน้องหมาเยอะมากๆ ที่อยากได้กลิ่นนี้ มันมีความรู้สึกและความเฉพาะตัวบางอย่างที่คนไทยมองหาและตอบโจทย์เขา ดังนั้นเมื่อเรามาเปิดในไทย ก็น่าจะมีผลตอบรับที่ดี เพราะมีฐานแฟนคอยสนับสนุน ลูกค้าเข้าถึงได้ และเป็นจุดแข็งสำคัญที่เข้ามาเปิดในไทยค่ะ

 

HAUS NOWHERE  ขึ้นชื่อเรื่องการดีไซน์ร้านที่มีความโดดเด่นหรืออินสตอลเลชันอาร์ตต่างๆ แล้วคอนเซปต์หลักของที่ไทยจะเป็นอย่างไรบ้าง 

 

HAUS NOWHERE แต่ละเมืองจะไม่เหมือนกัน ซึ่งสำหรับที่กรุงเทพฯ เราอยากให้ลูกค้าเดินเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น มีความสนุกสนาน มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และสิ่งสำคัญที่สุด เราต้องการให้รู้สึกถึง Future Retail Experience

 

IICOMBINED หรือ HAUS NOWHERE มีความแตกต่างเพราะเรานำความล้ำยุคเข้ามาผสมในร้านเสมอ ทั้งตัวโรบ็อตหรือ Kinetic Technology ซึ่งเราคิดว่าลูกค้าจะรู้สึกตื่นเต้นและเห็นถึงความแตกต่างเหล่านี้ค่ะ 

 

จะมีโอกาสเห็น HAUS NOWHERE BANGKOK ร่วมงานกับศิลปินไทยไหม

 

ในอนาคตมีแน่นอนค่ะ ตอนนี้เรากำลังเริ่มคุย เพราะเราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราจะแตกต่างจากที่อื่น ในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบการในประเทศ นี่เป็นสิ่งที่เราอยากจะผลักดันให้ได้ เสน่ห์ของคนไทยมันมีความบียอนด์ ไม่ว่าจะเรื่องแฟชั่นหรือศิลปินสายโมเดิร์น เราเก่งไม่แพ้ใคร เราอยากทำให้เกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

การตกแต่งของร้านจะหมุนเวียนหรือเปลี่ยนไปในอนาคตด้วยหรือไม่

 

สิ่งที่เราคุยกันก็คือการความต้องการในการเปลี่ยนพื้นที่ต่างๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ของการจัดแสดงในเวลาที่เรามีงานคอลลาบอเรชันหรือคอลเล็กชันใหม่ในอนาคต และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับศิลปินไทยในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ Gen Z รู้สึกว่าแบรนด์พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าไปเรื่อยๆ เพราะถ้าหากว่าจะเปลี่ยนอะไร เราจะเปลี่ยนเป็นคอนเซปต์ใหม่ ไม่มีหมุนเวียนหรือหยุดนิ่ง แต่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนที่เข้ามารู้สึกตื่นเต้น และดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ร้านได้ต่อไปค่ะ

 

เราอยากจะทาร์เก็ตกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง สิ่งที่ดึงดูดคน Gen Z คืออะไร

 

Gen Z ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ พวกเขามองหาอะไรที่น่าตื่นเต้น อะไรที่เป็นอย่างแรก อะไรใหม่ๆ หรืออะไรที่มีความเฉพาะตัว แล้วเข้าไปสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น และพวกเขาก็เป็นกลุ่มคนสำคัญที่สร้างคอนเทนต์ของตัวเองให้ไวรัลได้ด้วย พอไวรัล กลุ่มลูกค้าก็ขยายขึ้นไปอีก พวกเขาก็เลยสำคัญมากๆ ค่ะ

 

HAUS NOWHERE ตอบโจทย์กลุ่มคน Gen Z แน่นอน เพราะเรามีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเป็นที่แรกสำหรับประเทศไทยด้วย ซึ่งนอกจากเราจะมีตัวอินสตอลเลชันอาร์ตแล้ว สินค้าเราก็ยังมีเอ็กซ์คลูซีฟที่ขายเฉพาะในประเทศไทยด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะมี TAMBURINS Exclusive ลิมิเต็ดเอดิชันเฉพาะประเทศไทย เป็นอะไรที่ลูกค้าน่าจะชอบ เป็น Egg Perfume (Egg Perfume – Blue Hinoki ที่เพิ่มกิมมิกดอกลีลาวดี) ที่มีที่นี่ทีเดียว ดีไซน์แพ็กเกจใหม่สำหรับประเทศไทยค่ะ 

 

เราอยากให้ HAUS NOWHERE ที่ไทยมีสิ่งของที่เอ็กซ์คลูซีฟอยู่เสมอ เราอยากให้คนตื่นเต้นเวลามีอะไรใหม่ๆ เข้ามา เวลาเราทำตัวคอลเล็กชันต่างๆ ที่พิเศษมักจะ Sold Out เสมอ เพราะเราไม่ผลิตเป็นจำนวนมาก เราอยากให้เป็นความรู้สึกที่ว่า ‘คุณต้องมาที่นี่เพื่อสะสมสิ่งนี้’

 

สิ่งที่เราทำมาตลอดคือการคอลลาบอเรชัน ปีหนึ่งจะต้องมีอย่างน้อย 3-4 ครั้ง สำหรับแบรนด์ Gentle Monster หรือ TAMBURINS ก็จะคอลแลบกับศิลปินคนดังหรือทำคอลเล็กชันบางอย่างร่วมกันค่ะ

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

แสดงว่าที่ Felix วง Stray Kids จะมาก็นับเป็นคอลแลบในคอลเล็กชันใหม่ด้วย

 

ใช่ค่ะ จริงๆ แล้ว TAMBURINS มีแบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่แล้ว ทั้ง JENNIE วง BLACKPINK, นักแสดง Byeon Woo Seok รวมทั้ง Felix ที่มาทำด้วยกันเป็นคนที่ 3 ซึ่งเขามาทำคอลเล็กชันร่วมกับ TAMBURINS ที่ชื่อว่า SUNSHINE ซึ่งตอนนี้ก็ Sold out ทั่วโลกแล้ว แต่สต็อกมาอยู่ที่เรา (หัวเราะ) ดังนั้นในตอนนี้ที่เรามีจำนวนสินค้าที่จำกัด และคุณ Felix ก็จะมาด้วย ก็ต้องบอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติค่ะ ภูมิใจมากๆ เพราะว่าจริงๆ แล้ว เราเชิญเขามา เขาก็ตอบรับเป็นอย่างดีเลย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาคนเดียว ในฐานะตัวแทนของแบรนด์ ก็เลยคิดว่ามีความพิเศษมากๆ ที่เขาอยากจะมาเมืองไทย ตัวเขาเองก็เป็นศิลปินระดับโลก มีฐานแฟนสนับสนุนเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยค่ะ

 

จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาวไทยสำหรับ TAMBURINS หรือ Gentle Monster

 

มีโอกาสเป็นไปได้ค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ IICOMBINED เพราะทั่วโลกค่อนข้างเชื่อในศิลปินและคนดังในเมืองไทยมากค่ะ ทั้งในเรื่องภาพลักษณ์ เอนเกจเมนต์ ฟอลโลเวอร์ คนไทยไม่เป็นรองใครแน่นอน ดังนั้นในการทำคอลลาบอเรชันหรือแอมบาสเดอร์ เป็นสิ่งที่เรากำลังคุยอยู่ในกระบวนการต่างๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีแน่นอนค่ะ

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

ราคาของสินค้าต่างกับที่เกาหลีมากน้อยแค่ไหน อะไรที่เป็นสิ่งดึงดูดให้พวกเขาเลือกมาซื้อที่ไทยมากกว่าเกาหลี

 

ราคาเป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจ และเราก็ให้ความสนใจในฐานะผู้ประกอบการ ดังนั้นต้องบอกว่า ราคาที่ไทยกับที่เกาหลีแทบไม่ต่างกัน อาจจะต่างหลักร้อย มากสุดก็ไม่เกินหลักพัน และอีกอย่างหนึ่งก็คือประสบการณ์ที่พวกเขาจะได้รับจากที่นี่ค่ะ ประสบการณ์ที่ไทยกับที่โซลไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน การบริการที่เราเพิ่มเสน่ห์ของความเป็นไทยเข้าไปก็น่าจะดึงดูดได้มากพอ เราพยายามจะหาความเป็นไทยและความเป็นแลนด์มาร์กเพื่อดึงดูดคนให้เข้ามา เราดีใจมากๆ ที่เราได้ Egg Perfume ที่เป็นลิมิเต็ดเอดิชันเฉพาะประเทศไทย เพราะนั่นแปลว่าสุดท้ายแล้วลูกค้าก็ต้องมาซื้อที่นี่ค่ะ

 

แล้วจะมีแบรนด์อื่นๆ ในเครือมาเปิดในประเทศไทยด้วยหรือไม่

 

อยากได้ทุกแบรนด์เลยค่ะ (หัวเราะ) HAUS มีคอนเซปต์คือการรวมแบรนด์ แต่ด้วยความจำกัดของพื้นที่ เมืองไทยไม่เหมือนที่อื่น แบรนด์ส่วนมากจะอยู่ในห้าง แต่ประเทศอื่นจะมีร้านหรือตึกเป็นของตัวเอง ก็เลยทำให้มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ แต่ถ้าในอนาคตเรามีพื้นที่ในการครีเอตมากขึ้น เราจะเอามาแน่นอนค่ะ ทั้งแบรนด์ NUDAKE, ATiiSSu หรือ Nuflaat น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย  เพราะแต่ละแบรนด์มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ราคาเข้าถึงได้ คุณภาพ รวมทั้งเรื่อง Identity ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่คนไทยกำลังมองหาค่ะ

 

สุดท้ายนี้ IICOMBINED เป็นบริษัทเกาหลีที่ประสบความสำเร็จมากในระดับโลก คิดว่าผู้ประกอบการไทยสามารถเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้ได้บ้าง

 

เรื่องวิสัยทัศน์ (Vision) ที่เขาตั้งไว้ค่ะ ตั้งแต่จุดแรกเริ่ม เขาต้องการความพิเศษไม่เหมือนใคร One of a kind ต้องการเป็นที่หนึ่งในตอนที่คนนึกถึง ดังนั้นเรื่องการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราอยากให้ลูกค้าสัมผัสอะไรและอยากให้พวกเขาได้สิ่งที่ดีที่สุดไปได้อย่างไร 

 

อย่างเมื่อก่อนแว่นตาเป็นสิ่งที่มีแค่ระบบไซซ์ยุโรป ไม่มีเอเชียนไซซ์ แต่ Gentle Monster ทำให้เป็นสิ่งที่เหมาะกับคนเอเชีย สามารถจับต้องได้ และการเดินเข้ามาในร้านก็ทำให้เราได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากกว่าที่จะกดสั่งซื้อจากที่บ้านด้วย

 

ปรัชญาสำคัญที่เรายึดถือตอนนี้คือการอยากให้ลูกค้าเดินมาที่ร้านเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ สัมผัสกับสินค้า มากกว่าความเป็นโลกดิจิทัลที่ซื้อเร็ว ขายเร็ว ขายคล่อง ในขณะที่สินค้าและบริการต่างๆ ของเราก็รับประกันตลอดชีพนะคะ เพราะหนึ่งคือสินค้าก็มีคุณภาพ สองคือเป็นเรื่อง Emotional Connect ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถกลับมาที่ร้านได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาอะไรก็ตาม

 

HAUS NOWHERE BANGKOK

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising