วานนี้ (27 พฤศจิกายน) ทีมข่าว THE STANDARD รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายหลังจากที่ประสบภัยน้ำท่วมขังมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน โดยภาพรวมในช่วงค่ำที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นวันแรกที่ปริมาณฝนเริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ระดับน้ำในตัวเมืองเริ่มลดระดับลงอย่างชัดเจน จนผู้ประสบภัยบางส่วนสามารถทยอยออกจากศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อกลับเข้าไปสำรวจบ้านเรือนได้
จากการลงพื้นที่สำรวจในโซนตัวเมืองหาดใหญ่ พบว่าแม้ระดับน้ำในหลายจุดจะลดลงจนแห้งสนิท แต่ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งไฟฟ้าและน้ำประปายังคงไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังได้เห็นภาพความเสียหายของยานพาหนะจำนวนมาก ตามถนนสายหลักที่ประชาชนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดด้วยความหวังว่าจะหนีพ้นมวลน้ำ แต่ท้ายที่สุดกลับหนีไม่พ้น กระแสน้ำที่เชี่ยวได้พัดพารถยนต์จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก สภาพรถบางคันถูกกระแสน้ำซัดจนเกยซ้อนทับกัน กระจกรอบคันแตกเสียหาย
ทั้งนี้ หน่วยงานราชการได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถรีบมาเคลื่อนย้ายรถยนต์ของตนออกจากผิวจราจร เพื่อเปิดทางสัญจร ส่งผลให้ตลอดทั้งวันแม้น้ำจะลดลง แต่การจราจรในอำเภอหาดใหญ่กลับประสบปัญหารถติดขัดอย่างหนัก
แม้ตัวเมืองจะเริ่มคลี่คลาย แต่ในพื้นที่รอบนอกยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ ชุมชนสะพานดำ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขังสูง จุดที่ลึกที่สุดระดับน้ำยังสูงถึง 1.5 – 2 เมตร
ประชาชนในพื้นที่นี้ยังคงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก บางส่วนต้องอาศัยอยู่บนหลังคาบ้าน หรืออพยพขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยที่คอยแวะเวียนนำอาหารและของใช้จำเป็นล่องเรือเข้าไปส่งให้ถึงมือ
ทีมข่าว THE STANDARD ได้ติดตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำสิ่งของเข้าไปแจกจ่าย พบว่าสิ่งของที่ประชาชนต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ เทียนไข และอาหารปรุงสุกพร้อมทาน
ท่ามกลางวิกฤต ยังมีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้น เมื่อชาวบ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวหลายคน แสดงเจตจำนงยินดีแบ่งกันทานข้าว 1 กล่องต่อ 2 คน เพื่อประหยัดเสบียงและเพื่อให้มั่นใจว่าทีมกู้ภัยจะมีข้าวกล่องเพียงพอสำหรับแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านหลังถัดๆ ไปอย่างทั่วถึง



















