คงไม่ผิดนักหากจะพูดว่า Harry Styles (แฮร์รี สไตล์ส) นักร้องหนุ่มรูปงามชาวอังกฤษวัย 28 ปี คือหนึ่งในศิลปินผู้เปล่งประกายมากสุดในเวลานี้ อ้างอิงจากความถี่ที่เราได้เห็นหน้าค่าตาเขาผ่านสื่อแทบทุกวันอันมีสาเหตุมาจากหลายผลงานเด่นของเจ้าตัว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ถ่ายแบบ และเพลง ซึ่งล่าสุดเพิ่งปล่อยอัลบั้มชุดใหม่ Harry’s House (2022) ออกมาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ฟังกันแบบสดๆ ร้อนๆ
Harry’s House เป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ของ Harry Styles ซึ่งตั้งชื่อตามอัลบั้ม Hosonos House (1973) ของ Haruomi Hosono หนึ่งในศิลปินรุ่นเดอะผู้มีอิทธิพลต่อวงการเพลงป๊อปประเทศญี่ปุ่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Harry Styles ได้เผยถึงกระบวนการทำงานในอัลบั้มนี้ผ่านสถานีวิทยุ Hits Radio ไว้ว่า มันเปรียบเสมือนการเดินทางเพื่อค้นหา ‘บ้าน’ และ ‘ความสงบสุข’ ในตัวเขาเอง
Harry’s House มีความยาว 41 นาที ประกอบไปด้วยบทเพลงจำนวน 13 แทร็ก อันมีส่วนผสมทางดนตรีหลากหลายแนว ทั้งป๊อป ร็อก ฟังก์ แถมยังโดดเด่นด้วยซาวด์จากเครื่องดนตรีสังเคราะห์ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวแปรสำคัญของงานชุดนี้ ส่วนผู้ควบคุมการผลิตก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Kid Harpoon และ Tyler Johnson สองโปรดิวเซอร์คนคุ้นเคยที่ร่วมงานกับ Harry Styles มาตั้งแต่เดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยว
ตัวอัลบั้มเปิดด้วย Music For a Sushi Restaurant เพลงจังหวะเร็วโปรดักชันอลังการที่ Harry Styles พูดถึงวัตถุดิบทำซูชิไปพร้อมๆ กับแรงปราถนาเรื่องความสัมพันธ์ได้อย่างสนุกสนาน ตามด้วย Late Night Talking ซึ่งก่อนหน้านี้เขานำไปเล่นสดบนเวทีใหญ่เทศกาลดนตรี Coachella และ Grapejuice เพลงเนื้อหาหวานเยิ้มซาวด์ล่องลอยที่เราเชื่อว่าหลายคนจะต้องหลงรักตั้งแต่ฟังรอบแรก
.
ขณะที่เพลงอื่นๆ ก็มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น As It Was ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มที่ช่วงนี้เราจะเห็นชาวเน็ตนำไปใช้ประกอบวิดีโอ Reels หรือคลิปคอนเทนต์ TikTok กันเกลื่อนกลาด และปัจจุบันมียอดสตรีมใน Spotify มากกว่า 470 ล้านครั้ง รวมถึง Cinema และ Day Dreaming เพลงกลิ่นอายอาร์แอนด์บีที่ Harry Styles ได้ John Mayer มาช่วยบรรเลงกีตาร์ให้
สำหรับ Daylight และ Satellite ในพาร์ตดนตรีก็มีชั้นเชิง เริ่มต้นด้วยซาวด์ป๊อปๆ ฟังง่าย ติดหู แต่พอเข้าสู่ช่วงท้ายเพลงกลับระเบิดซาวด์แตกพร่าชวนให้โยกหัวแบบไม่ยั้ง ถือเป็นสองเพลงที่หาก Harry Styles หยิบไปเล่นสดในคอนเสิร์ตน่าจะสร้างความสนุกสนานให้เหล่าคนดูได้มากโข ส่วนบทเพลงอย่าง Little Freak, Matilda, Keep Driving, Boyfriends และ Love of My Life ก็เปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกชนิดที่หากใครมีประสบการณ์ร่วมคงอินตามจนน้ำตาคลอ
หลังจากฟังจบครบทั้ง 13 เพลง เราคงพูดอย่างอื่นไม่ได้นอกจากว่า Harry’s House คืออัลบั้มที่ดีที่สุดของ Harry Styles ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถ วิสัยทัศน์ และชั้นเชิงทางดนตรีที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงตัวตน การเติบโต รวมถึงเรื่องราวอุปสรรคต่างๆ ที่เขาผ่านพบ และพิสูจน์ว่าศิลปินหนุ่มคนนี้พร้อมแล้วกับสถานะ ‘ตำนาน’ แห่งวงการดนตรีที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ภาพ: Harry Styles