คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกโรงตอกกลับโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีอย่างเผ็ดร้อน หลังจากที่ทรัมป์เสนอให้ประธานาธิบดีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยแฮร์ริสกล่าวว่า “ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” พร้อมย้ำว่า Fed เป็นหน่วยงานอิสระ และในฐานะประธานาธิบดี เธอจะไม่มีวันแทรกแซงการตัดสินใจของ Fed
การโต้เถียงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะมาถึงในอีกเพียง 87 วัน โดยแฮร์ริสเปิดเผยว่า เธอกำลังเตรียมเปิดตัวนโยบายเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเน้นไปที่การลดค่าครองชีพ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่าประธานาธิบดีควรมีสิทธิ์มีเสียงในนโยบายของ Fed โดยอ้างถึงประสบการณ์ทางธุรกิจของตนว่า “ผมคิดว่าในกรณีของผม ผมทำเงินได้มากมาย ผมประสบความสำเร็จอย่างมาก และผมคิดว่าผมมีสัญชาตญาณที่ดีกว่าคนที่อยู่ใน Fed หรือประธาน Fed ในหลายๆ กรณี”
แฮร์ริสยังกล่าวอีกว่า เธอกำลังจับตาดูว่า Fed จะเคลื่อนไหวอย่างไรเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยสังเกตว่าแม้จะมีความผันผวนในตลาดโลกในสัปดาห์นี้ แต่สถานการณ์ดูเหมือนจะคลี่คลายลงแล้ว
ในขณะที่ทรัมป์ยังคงระลึกถึงความขัดแย้งที่เคยมีกับเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเฉพาะเมื่อคณะกรรมการ Fed ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย
พาวเวลล์ย้ำถึงความสำคัญของความเป็นอิสระของ Fed เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจได้ โดยปราศจากแรงกดดันทางการเมือง คณะกรรมการ Fed สามารถตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อเอาใจผู้ลงคะแนนเสียง
แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะไม่ได้พยายามใช้อิทธิพลต่อคณะกรรมการ Fed แต่พาวเวลล์ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะหลังจากความวุ่นวายในตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนหลายรายเรียกร้องให้พาวเวลล์เร่งลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ก่อนการลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์ยืนยันว่าเขาต้องการให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ก่อนที่เขาและคณะกรรมการจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย การตัดสินใจนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดการเงินทั่วโลก ทำให้ทุกฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง:
