อิสราเอล อ้างพบ 'อุโมงค์ฮามาส' ในโรงพยาบาลหลักของกาซา ปาเลสไตน์หวั่น...

กองทัพอิสราเอลเผยแพร่คลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นปล่องทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสในบริเวณพื้นที่กลางแจ้งภายในโรงพยาบาลอัลชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา พร้อมอ้างว่าพบรถอีก 1 คันที่บรรทุกอาวุธจำนวนมาก ทั้งปืน ระเบิด และจรวดจอดอยู่ภายในโรงพยาบาล

การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังกองทัพอิสราเอลส่งหน่วยคอมมานโดปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินในโรงพยาบาลอัลชิฟา เพื่อค้นหาศูนย์บัญชาการใต้ดินขนาดใหญ่ของฮามาส ซึ่งอิสราเอลอ้างว่าดำเนินการอยู่ภายในอุโมงค์ใต้โรงพยาบาล

นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังรายงานว่า พบศพของหญิงชาวอิสราเอลคนหนึ่งอยู่ในอาคารใกล้โรงพยาบาล ซึ่งเธอเป็น 1 ในตัวประกันกว่า 240 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

ทางด้านหน่วยงานสื่อของกลุ่มฮามาสเผยแพร่แถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของอิสราเอล โดยชี้ว่าเป็นการโกหกที่ไร้มูลความจริง และสร้างสถานการณ์เท็จที่แต่งขึ้นเพื่อบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลอัลชิฟา พร้อมระบุถึงข้อกล่าวอ้างเรื่องปล่องอุโมงค์ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ที่ไร้สาระ และทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปลุกปั่นและหลอกลวงของอิสราเอลเพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำสงครามในฉนวนกาซา

ขณะที่สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบและยืนยันว่าคลิปวิดีโอปล่องอุโมงค์ฮามาสที่กองทัพอิสราเอลนำมาเผยแพร่นั้นเป็นของจริงหรือไม่ โดยรายละเอียดในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นหลุมลึกในพื้นดิน และมีเศษคอนกรีต ไม้และกองทรายอยู่รอบๆ โดยลักษณะพื้นที่นั้นเหมือนถูกขุด ขณะที่พบรถแทรกเตอร์เกลี่ยดิน 1 คันอยู่ด้านหลัง

ทั้งนี้ อัชราฟ อัล-กีดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในกาซาที่ดำเนินการโดยฮามาส เรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลถอนกำลังจากพื้นที่โรงพยาบาลอัลชิฟา โดยระบุว่าชีวิตของผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้หญิงและเด็กรวมหลายพันคนกำลังตกอยู่ในอันตราย

เขากล่าวว่าสภาพภายในโรงพยาบาลนั้นไม่มีน้ำ ไฟฟ้า อาหารและนมสำหรับทารก และมีผู้ป่วยอยู่ราว 650 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและผู้อพยพอีกมากกว่า 7,000 คน ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้เข้าเคลื่อนย้ายศพ และทำลายลานจอดรถ แต่ไม่ยอมปล่อยให้ใครออกไปจากโรงพยาบาล

ขณะที่ก่อนหน้านี้หน่วยแพทย์เปิดเผยว่ามีผู้ป่วยหลายสิบคน รวมถึงทารกที่คลอดก่อนกำหนด 3 คน เสียชีวิตจากการขาดเชื้อเพลิงและสิ่งของจำเป็นพื้นฐานระหว่างที่ทหารเข้าปิดล้อมโรงพยาบาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน)

ด้าน มูฮัมหมัด อาบู ซัลมิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัลชิฟา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าว Al Jazeera จากในโรงพยาบาล โดยระบุว่าโรงพยาบาลตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพอิสราเอลนานกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว และทุกนาทีที่ผ่านไปหมายถึงผู้ป่วยจะเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และภาวะขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์กำลังบีบบังคับให้แพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องตัดสินใจในสิ่งที่ ‘ลำบากใจ’ เช่น แพทย์ต้องตัดแขนขาของผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากขาดแคลนเวชภัณฑ์ และไม่มียาสำหรับรักษาเด็กที่มีอาการท้องร่วงหรืออาเจียน

ภาพ: Israel Defense Forces / Handout via REUTERS

อ้างอิง: