ถือเป็นอีกหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์สำหรับการขายกิจการครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อ Nestlé ยักษ์ใหญ่อาหารและเครื่องดื่มสัญชาติสวิส ตัดสินใจขายธุรกิจไอศกรีมในสหรัฐฯ ทิ้ง ทั้งที่เพิ่งรุกอย่างจริงจังมาแค่ 3 ปี รับทรัพย์ไปกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
Nestlé ระบุว่าได้ขายให้กับ Froneri ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ Nestlé เป็นผู้ก่อตั้งร่วมกันเมื่อปี 2016 กับ PAI Partners ซึ่งได้รวมกิจการของธุรกิจไอศกรีมในยุโรปและประเทศอื่นๆ รวมกัน 20 ประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง ‘บริษัทไอศกรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก’
นอกจากบิ๊กดีลนี้จะเปลี่ยนมือแบรนด์ไอศกรีมหรูคุ้นหูอย่าง Häagen-Dazs, Edy’s และ Drumstick แล้ว ยังจะมีการปลดพนักงานออก 4,000 คนด้วย โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจไอศกรีมในสหรัฐฯ มียอดขาย 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.4 หมื่นล้านบาท
การขายกิจการครั้งนี้ได้ซ่อนเป้าหมายอันทะเยอทะยานของ Nestlé เอาไว้ เนื่องจาก Nestlé ต้องการเจาะตลาดไอศกรีมแดนลุงแซม ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.32 แสนล้านบาท
ข้อมูลของ International Dairy Foods Association (IDFA) ระบุว่าโดยเฉลี่ยชาวอเมริกันบริโภคไอศกรีมมากกว่า 23 ปอนด์ต่อปี และไอศกรีมรสชาติปกติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตาลและไขมันยังคงเป็นสิ่งที่รับความนิยมมากที่สุด
ทว่า Nestlé ยังต้องเจอคู่ปรับอย่าง Unilever ซึ่งมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง Ben & Jerry’s และ Magnum บนสังเวียนนี้ ดันแคน ฟ็อกซ์ นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence บอกว่า Nestlé สู้รบกับ Unilever มาหลายปีแล้ว ซึ่งการรวมกิจการทำให้มีผู้ที่ได้โอกาสทางการแข่งขันมากขึ้น
ด้วยการแข่งขันในตลาดไอศกรีมที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ Halo Top เสนอทางเลือกไอศกรีมที่เป็นมิตรกับสุขภาพให้กับผู้บริโภคที่กำลังจริงจังเรื่องนี้อย่างหนักได้เข้ามากินส่วนแบ่งของผู้เล่นรายใหญ่ ในขณะที่ Unilever ก็ไม่อยู่เฉยๆ ออกรสชาติขมิ้นชันและอบเชย (Turmeric Chai & Cinnamon) กับมัตฉะและฟัดจ์ (Matcha & Fudge) ออกมาสู้
มาร์ค ชไนเดอร์ ซีอีโอของ Nestlé ให้ความเห็นว่า “ด้วยการบริหารงานของ Froneri จะทำให้เจาะตลาดสหรัฐฯ ได้สำเร็จ และนำไปสู่เป้าหมายแชมป์โลกไอศกรีมในที่สุด”
คาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 หลังจากนั้น Nestlé จะยังคงบริหารธุรกิจไอศกรีมที่เหลืออยู่ในแคนาดา ลาตินอเมริกา และเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดหลักในปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- www.nestle.com/media/pressreleases/allpressreleases/nestle-strategic-move-create-global-leader-ice-cream
- www.bloomberg.com/news/articles/2019-12-11/nestle-said-to-add-4-billion-u-s-ice-cream-arm-to-pai-venture
- www.usatoday.com/story/money/food/2019/12/11/nestle-ice-cream-sale-froneri-buying-drumstick-haagen-dazs-4-billion/4400778002/