เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ร้านค้าต้องปิดร้านชั่วคราวอย่างเลี่ยงไม่ได้ จุดนี้เองกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันไปช้อปปิ้งในออนไลน์มากขึ้น กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ H&M ตัดสินใจปิดร้าน 250 สาขาทั่วโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% จากร้าน 5,000 สาขา ในปี 2021 แม้ว่าที่ผ่านมา H&M ปิดร้านเพิ่มขึ้น และเปิดน้อยลงในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางออนไลน์ ที่ทำให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น
H&M กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ลูกค้าเริ่มจับจ่ายทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ” หลังจากการปิดร้านชั่วคราวที่จุดสูงสุดมียอดรวมประมาณ 80% ของจำนวนร้าน H&M และแม้วันนี้ร้านเกือบทั้งหมดจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว แต่ยังมี 166 สาขาทั่วโลกที่ยังต้องปิดชั่วคราวอยู่ ขณะที่ร้านที่เปิดแล้วนั้นกำลังเผชิญข้อจำกัดที่หลากหลาย เป็นต้นว่าเวลาทำการยังไม่สามารถเปิดได้เหมือนก่อนเกิดโรคระบาด
สำหรับผลงานในไตรมาส 3 ซึ่งครอบคลุมยอดขายตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมฟื้นตัวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากการเปิดร้านใหม่และการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและทำกำไร อย่างไรก็ตามยอดขายเดือนกันยายนลดลง 5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
H&M กล่าวว่า ตอนนี้จะเร่งแผนเพิ่มการลงทุนดิจิทัลเพื่อรับมือกับความต้องการออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงการซื้อ การลงทุน ค่าเช่า การจัดหาพนักงาน และการจัดหาเงินทุน
นักวิเคราะห์จาก GlobalData ให้ความเห็นว่า ยอดขายของ H&M ในเดือนกันยายนที่ลดลงเพียง 5% ชี้ให้เห็นว่า ลูกค้าเริ่มมั่นใจที่จะกลับไปซื้อสินค้าที่ร้านมากขึ่น แต่ “การปรับปรุงการนำเสนอออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัล จึงจะทำให้ H&M ประสบความสำเร็จในตลาดที่ยากลำบาก”
ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์การค้าปลีกกล่าวกับ BBC ว่า “สิ่งที่เราเห็นโดยทั่วไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาของการแพร่ระบาด คือการเปลี่ยนแปลงจำนวนการขายทางออนไลน์ นั่นส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเสื้อผ้าและรองเท้า”
ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2020 H&M กำไรก่อนหักภาษีลดลงเหลือ 2.37 พันล้านโครนาสวีเดน หรือราว 8,383 ล้านบาท โดยตัวเลขนี้ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
“แม้ว่าความท้าทายจะยังไม่จบสิ้น แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอยู่เบื้องหลังเรา และเราพร้อมที่จะออกมาจากวิกฤตได้อย่างแข็งแกร่ง” เฮเลนา เฮลเมอร์สสัน (Helena Helmersson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร H&M กล่าว
การระบาดของโควิด-19 ได้เร่งกระแสไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมค้าปลีก Inditex ซึ่งเป็นเจ้าของ Zara และเป็นคู่แข่งหลักของ H&M ในสงครามฟาสต์แฟชั่น กล่าวเมื่อต้นปีนี้ว่ามีแผนจะปิดร้านให้มากถึง 1,200 แห่งในปีนี้และปีหน้า
ขณะเดียวไม่ได้แค่ H&M เท่านั้น American Eagle Outfitters และ GameStop ก็เพิ่งประกาศแผนการปิดร้านค้าหลายร้อยแห่ง เนื่องจากการช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
