เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามคาด (เพิ่มขึ้น 64.3%YoY และ 35.5%QoQ) โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม และการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น 70.0%QoQ และ 73.3%YoY:
- ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่เพิ่มขึ้น 5.6%QoQ และ 20.4%YoY จากกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก ADVANC
- ส่วนแบ่งกำไรจาก GJP ที่ดีขึ้นเพราะไม่มีโรงไฟฟ้าหยุดซ่อมบำรุง
- การได้รับส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโครงการ HKP หน่วยที่ 1 (377 MWe) หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์
- ผลการดำเนินงานที่ PTT NGD ดีขึ้น โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง และราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเตา
- การรับรู้รายได้จากโครงการ GPD หน่วยที่ 3 (464 Mwe) เต็มไตรมาส
แนวโน้มปี 2H67 ยังแข็งแกร่ง InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2,700MW สู่ 15,167MW ในปี 2567 ผ่านโครงการหลายโครงการ:
- โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ GPD หน่วยที่ 3 (กำลังการผลิต 662.5MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2567) และ GPD หน่วยที่ 4 (กำลังการผลิต 662.5MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2567)
- โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ที่โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) หน่วยที่ 1 (กำลังการผลิต 770MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคม 2567)
- การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) และโครงการโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 605MW ใน 2H67
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าสองโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ได้แก่ เฟสที่สองของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กำลังการผลิต 3.6GW และแผน PDP2024 ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอีก 30-40MW เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานสีเขียวในอนาคต
ทั้งนี้ กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบันของ GULF คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เทียบกับเป้าหมายที่ 40% ภายในปี 2578 นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อดีลควบรวมระหว่าง GULF กับ INTUCH ซึ่งมีกำหนดพิจารณาอนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้น (EGM) วันที่ 3 ตุลาคม 2567
กระทบอย่างไร:
หลังรายงานผลประกอบการ ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2567 ราคาหุ้น GULF ปรับขึ้น 1.05% อยู่ที่ระดับ 48.0 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.36% สู่ระดับ 1,300.90 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
Valuation น่าสนใจ หุ้น GULF ซื้อขายที่ PE ปี 2567 เพียง 27.8 เท่า หรือ -1.0 SD ของ PE เฉลี่ย 5 ปี InnovestX Research ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกำไรของ GULF ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า และคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ GULF โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 63 บาทต่อหุ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ
- ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการใหม่ต่ำกว่าคาด แต่ประวัติผลงานที่ดีเยี่ยมของ GULF ในการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จตามกำหนด และเป็นไปตามงบประมาณที่วางไว้จะช่วยลดความเสี่ยงนี้
- ยอดขายไฟฟ้าและไอน้ำของโครงการโรงไฟฟ้า SPP ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและต้นทุนเชื้อเพลิงสูง
- ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล