K-Pop ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ทางดนตรีอีกต่อไป แต่กลายเป็นวัฒนธรรมระดับโลกที่มีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วทุกมุมโลก และเบื้องหลังความสำเร็จนี้ แฟนคลับทั่วโลกมีบทบาทสำคัญในการผลักดันศิลปิน K-Pop ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการสนับสนุนและมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร จะยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ K-Pop แต่การเติบโตของแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง TikTok และ Instagram ได้เปิดโอกาสให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรม K-Pop มากขึ้น
ประเทศไทยมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและมีอิทธิพลในโซเชียลมีเดีย จึงกลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญในการขยายตัวของ K-Pop ในระดับโลก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ กรณีของ Alice Ratchadawan อินฟลูเอ็นเซอร์ชาวไทยที่ใช้เพลง Bad ของวงอินดี้เกาหลีใต้ wave to earth ในวิดีโอขอแต่งงานของเธอ จนทำให้เพลงนี้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก และส่งผลให้ยอดผู้ฟังรายเดือนของ wave to earth บน Spotify พุ่งสูงขึ้นแซงหน้าศิลปินชื่อดังของเกาหลีใต้อย่าง IU เสียอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- K-Pop ดังทะลุโลก แต่หุ้น ‘Big 4’ เกาหลีใต้ร่วงยับ ยอดขายอัลบั้มตกทำพิษ จนนักลงทุนกังวลอนาคต
- ROCKSTAR ของ LISA BLACKPINK: ปลุกกระแสถกเถียง K-Pop หรือ T-Pop? พร้อมจุดประกาย Global Pop ยุคใหม่ ไร้ข้อจำกัดสัญชาติ
- LISA BLACKPINK โพสต์เดียวรับทรัพย์กว่า 21 ล้านบาท! ครองแชมป์ไอดอล K-Pop รายได้สูงสุดบน Instagram
Hong Jong Hee หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ TikTok Korea ยืนยันว่า ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและไทย มีอิทธิพลอย่างมากในการเผยแพร่ K-Pop ไปทั่วโลก เนื่องจากครีเอเตอร์ในภูมิภาคนี้มักจะนำคอนเทนต์จากเกาหลีใต้มาสร้างสรรค์ใหม่ในสไตล์ของตัวเอง และสร้างกระแสไวรัลได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าอินโดนีเซียจะมีตลาดเพลงที่ใหญ่กว่า เนื่องจากมีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก แต่ไทยกลับมีอิทธิพลต่อ K-Pop มากกว่า เนื่องจากมีศิลปิน K-Pop ชาวไทยที่โด่งดังหลายคน เช่น TEN วง NCT, BamBam วง GOT7 และ LISA วง BLACKPINK
Suwat Wuthichairattanaporn ผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยมากว่า 20 ปี กล่าวว่า “ค่ายเพลงเกาหลีใต้มักจะรับสมัครสมาชิกชาวไทยเพื่อดึงดูดแฟนๆ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนามด้วย ตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหวล่าสุดของ YG Entertainment กับเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop วง BABYMONSTER เป็นความพยายามเชิงกลยุทธ์ที่จะครองตลาดไทยและขยายไปยังภูมิภาค CLMV”
ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบเหนือประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและเมียนมา เนื่องจากมีประชากรที่รวมศูนย์และโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเอื้อต่อการผลิตคอนเทนต์รองและสร้างวิดีโอสั้นๆ บนโซเชียลมีเดียที่สามารถกลายเป็นไวรัลได้อย่างรวดเร็ว
Lim Hee Yun นักวิจารณ์เพลง กล่าวว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ LISA วง BLACKPINK ได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในประเทศไทย ซึ่งน่าจะไม่ได้เกิดจากความรักชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลอีกด้วย” นั่นสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางทางวัฒนธรรมในเอเชีย
ภาพ: สลัก แก้วเชื้อ / THE STANDARD POP
อ้างอิง: