กลุ่ม 10 พรรคเล็กร่วมกันแถลงข่าว ยืนยันยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางกระแสการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีจากทางกลุ่ม 2 เก้าอี้ โดยมีพรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคประชานิยม, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลเมืองไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคพลังธรรมใหม่ รวมถึงมี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมแถลงด้วย
.
ในการแถลงข่าวครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลซ์ 1 ในแกนนำของกลุ่ม 10 พรรคการเมือง ได้ออกมาเรียกร้องต่อพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลคือ พรรคพลังประชารัฐ ต้องจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีให้กับกลุ่มด้วย กระทั่งนำไปสู่การประกาศว่าอาจจะไม่สนับสนุนรัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ด้วยการขอเป็นฝ่ายค้าน
โดยมติของ 10 พรรคการเมือง ภายหลังการหารือ พล.ต. ทรงกลด ทิพยรัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย ได้ย้ำว่า ยังคงมีมติเหมือนเดิมที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ทุกวันนี้ 10 พรรค ก็เหมือนพรรคเดียวกัน ซึ่งมีความต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด และไม่มีการเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี โดยขอให้เป็นดุลยพินิจของ พ.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า กลุ่มไม่ได้แตก ยังมีอยู่ 10 พรรค ไม่ใช่ 8 พรรคแน่นอน โดยขอเรียกร้องไปยัง ส.ส. ในสภา ให้ยุติการต่อรองตำแหน่ง เพื่อประเทศเดินหน้าไปได้ รวมถึงการให้ฝ่ายค้านมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการต่างๆ เพื่อถ่วงดุลการทำงาน และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง
ขณะที่ มงคลกิตติ์ยังยืนยันว่า อยู่ในกลุ่ม 10 พรรค และสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม และนี่เป็นครั้งแรกที่ตนได้ประกาศสนับสนุนอดีต ผบ.ทบ. เป็นนายกฯ โดยระบุว่า ตนเองเป็นผู้แทนฯ ของประชาชน จะขอทำงานให้ประชาชน ส่วนตำแหน่งเก้าอี้ รมต. เชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะมองเห็นศักยภาพและความสามารถของทั้ง 10 หัวหน้าพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหาก 10 พรรค ไม่ได้โควตารัฐมนตรี จะยังอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ มงคลกิตติ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของมติที่ประชุมของทั้ง 10 พรรคครั้งต่อไป โดยตอบคำถามช่วงหนึ่งว่า เมื่อไม่ได้เก้าอี้ รมต. ก็ต้องมาคุยกันใหม่ ทำให้ สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย กล่าวกับสื่อมวลชนในทันทีว่า ยังยืนยันที่จะร่วมรัฐบาล แม้ไม่ได้เก้าอี้ รมต. ก็จะเป็น ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลต่อไป แต่อาจจะเพิ่มบทบาทการตรวจสอบมากขึ้น
“ผมเชื่อมั่นว่า ท่านนายกรัฐมนตรีจะมีความยุติธรรมต่อพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค โดยเฉพาะพลังประชารัฐจะต้องมีความเสียสละให้กับพรรคร่วมทุกคน เพราะฉะนั้นแล้ว พลังประชารัฐจะต้องต่อรองน้อยที่สุด ใจกว้างมากที่สุด เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพในการบริหารราชการแผ่นดินครบ 4 ปี”
ด้าน ร.อ. ธรรมนัส แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การมาพูดคุยกับ 10 พรรคการเมือง ไม่ใช่การมาคุมเชิง แต่ตนรู้จักหลายท่านมานาน และเมื่อมีความไม่เข้าใจกัน ท่านก็เชิญมารับฟังหาทางออก ตนอยากให้เลิกวาทกรรมต่างๆ ได้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องเร่งมีรัฐบาล เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล