×

ร้านโชห่วยถูกใช้เป็นเครื่องมือจริงหรือไม่? เมื่อยักษ์ค้าปลีกเปิดศึกส่งโมเดลใหม่ ดึงร้านค้าเป็นพันธมิตรช่วยชิงลูกค้า หวังเพิ่มทางรอด-สร้างรายได้ระยะยาว

21.11.2022
  • LOADING...
ธุรกิจค้าปลีก

หากจะกล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งความท้าทายและยากลำบากของธุรกิจโชห่วยก็คงจะไม่เกินจริงนัก เมื่อยักษ์ค้าปลีกรายใหญ่เริ่มรุกคืบขยายธุรกิจ หวังกวาดลูกค้าทุกพื้นที่ ทำให้ธุรกิจโชห่วยต้องเผชิญการแข่งขันอย่างหนัก

 

ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้ร้านโชห่วยจำนวนไม่น้อยต้องล้มหายตายจากไปอย่างเงียบๆ เพราะไม่มีเงินทุนมากพอที่จะปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดได้ โดยปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการร้านโชห่วยทั่วประเทศเหลือเพียง 5 แสนร้านค้า 

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ร้านโชห่วยยังครองส่วนแบ่งตลาด 44% รองลงมาคือร้านสะดวกซื้อ 31.8% และไฮเปอร์มาร์เก็ต 24.1%

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

แหล่งข่าวจากแวดวงธุรกิจค้าปลีกเปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ขณะนี้ค้าปลีกรายใหญ่ทั้งแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี และถูกดี หันมาให้น้ำหนักกับการพัฒนาโมเดลใหม่ สนับสนุนร้านโชห่วยมากขึ้น และยังคงความเป็นเจ้าของร้านค้าเดิมไว้  

 

จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายค่ายมีการจัดตั้งทีมงานลงพื้นที่โปรโมตเพื่อหาร้านค้ารายย่อยมาเป็นพันธมิตร พร้อมการงัดข้อเสนอและโปรโมชันราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมดึงสถาบันการเงินเข้ามาช่วยซัพพอร์ตเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยให้ร้านค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

 

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันร้านค้าปลีกรายย่อยหรือร้านโชห่วยเจออุปสรรครอบด้าน ทั้งเรื่องพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะหลังโควิด ซึ่งหากต้องปรับตัวตามก็ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นการเข้าไปเป็นพันธมิตรกับรายใหญ่อาจเป็นอีกหนึ่งหนทางรอด 

 

ค้าปลีกรายย่อยกลายเป็นเครื่องมือของรายใหญ่

หากมองอีกมุมหนึ่ง ร้านค้ารายย่อยถูกใช้เป็นเครื่องมือของรายใหญ่ในการขยายสาขา โดยที่ไม่ต้องใช้งบลงทุนมากถ้าเทียบกับเปิดร้านเอง และยังสามารถเปิดร้านได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าเฮาส์แบรนด์ สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ในอนาคต

 

ยิ่งไปกว่านั้นร้านค้าโมเดลดังกล่าวจะทำให้ค้าปลีกรายใหญ่สามารถจับกำลังซื้อของลูกค้าในชุมชนที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับคนละครึ่งได้ ขณะที่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ไม่สามารถทำได้

 

แม็คโคร ช่วยยกระดับร้านค้ารายย่อย

ขณะที่ฝั่งค้าปลีกรายใหญ่มองว่า ร้านโชห่วยไม่ได้ล้มหายไปจากตลาด เพียงแค่ปรับตัวช้าจึงต้องการเข้าไปช่วยยกระดับและสร้างภาพลักษณ์ให้ร้านค้ารายย่อยให้ทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย

 

เอกพล คูสุวรรณ ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท บมจ.สยามแม็คโคร หรือ MAKRO กล่าวว่า การทำตลาดไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เห็นได้จากกระแสลบทางโซเซียลมีเดีย มีร้านค้าที่เปิดแล้วแต่ก็ไม่รอดเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัญหาข้อจำกัดของสินค้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการและไม่คุ้นชินกับการบริหารจัดการภายในร้าน จึงทำให้ถอดใจไป

 

ขณะที่โมเดลร้านค้าปลีก Buddy Mart (บัดดี้มาร์ท) เพิ่งเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีการศึกษาและสำรวจตลาดอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่พบว่าร้านเหล่านั้นปรับตัวช้าและเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน จึงต้องการช่วยเสริมแกร่งด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญของแม็คโครที่มีฐานข้อมูล Big Data เข้ามาผสานและเชื่อมต่อกับร้านค้า

 

ปัจจุบันเปิดร้านคู่ค้าไปราวๆ 25 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างทำสัญญาอยู่จำนวน 200 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโซนภาคอีสาน คาดการณ์ว่าปลายปี 2565 จะเปิดได้ทั้งหมด 300 ร้านค้า 

 

บิ๊กซี-โลตัส ย้ำอยู่ระหว่างทดลอง 

ด้านแหล่งข่าวจากโลตัส ประเทศไทย บอกกับ THE STANDARD WEALTH ว่า โมเดลร้านนี้ขายดีไม่ได้เน้นยอดขายเป็นหลัก แต่ต้องการช่วยผู้ที่ต้องการทำร้านค้าปลีกรายย่อยให้ทำธุรกิจได้เติบโตและมีกำไร ผ่านการนำความเชี่ยวชาญบริษัทเข้าไปช่วย ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝั่งบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการทดลองโครงการร้านค้าโดนใจมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เน้นเปิดในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยปัจจุบันเปิดไปมากกว่า 700 แห่ง หลักๆ เน้นต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน

 

เปิดเงื่อนไขการลงทุนของรายใหญ่ 

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลโครงการร่วมเป็นคู่ค้ากับโชห่วยของบรรดาค้าปลีกรายใหญ่พบโมเดลธุรกิจ ดังนี้ 

 

  1. บัดดี้มาร์ท (แม็คโคร) มี 3 โมเดล พื้นที่ 48 ตารางเมตรขึ้นไป เริ่มต้นลงทุน 4 แสนบาท โดยแบ่งเป็นค่าประกันสัญญา 2 แสนบาท และปรับปรุงร้านค้า 2 แสนบาท ระยะสัญญา 3 ปี

 

  1. ร้านนี้โดนใจ (บิ๊กซี) มี 3 โมเดล ไซส์ S, M, L ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เริ่มต้น 1-7 แสนบาท  ระยะสัญญา 3 ปี  

 

  1. ร้านนี้ขายดี (ค่ายโลตัส) โมเดลร้านพื้นที่ 20-80 ตารางเมตร เริ่มต้นลงทุน 2-4 แสนบาท ระยะสัญญา 1 ปี และร้านถูกดีมีมาตรฐาน พื้นที่ 50 ตารางเมตร เริ่มต้นลงทุน 1-2 แสนบาท ระยะเวลา 3 ปี 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X