×

ศาลสั่งตั้ง ‘Grant Thornton’ ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ JKN คนใหม่ ด้าน ก.ล.ต. แจงปมสกัดผู้บริหารหนีไม่ได้

03.12.2025
  • LOADING...
ศาลสั่งตั้ง ‘Grant Thornton’ ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ JKN คนใหม่ ด้าน ก.ล.ต. แจงปมสกัดผู้บริหารหนีไม่ได้

มหากาพย์หุ้น JKN เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งแต่งตั้งมืออาชีพเข้ามาเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการคนใหม่ แทนที่ผู้บริหารชุดเดิม ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ

 

ศาลสั่ง ‘Grant Thornton’ นั่งผู้ทำแผนคนใหม่

 

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งแต่งตั้ง บริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด (Grant Thornton) ให้เป็นผู้ทำแผนคนใหม่ของบริษัทอย่างเป็นทางการ

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผลการประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งเจ้าหนี้จำนวน 1,443 ราย ได้เข้าร่วมประชุมและมีมติไม่ยอมรับแผนที่ผู้บริหารชุดเดิม (ลูกหนี้) เสนอ เนื่องจากผู้ทำแผนเดิมไม่ยอมให้มีการแก้ไขแผนตามที่ที่ประชุมเจ้าหนี้ต้องการ เจ้าหนี้จึงลงมติเลือก Grant Thornton เข้ามาทำหน้าที่แทน

 

โดยศาลพิจารณาแล้วไม่ปรากฏเหตุผลอันสมควรที่จะปฏิเสธมติของเจ้าหนี้ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งตามมติดังกล่าว ส่งผลให้ Grant Thornton จะมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของ JKN รวมถึงบริษัทย่อยทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสีย และจะต้องเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่เพื่อนำส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน 45 วัน (ขยายได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 วัน)

 

แอน – จักรพงษ์ หอบเงินหนี?

 

กรณีของ JKN ไม่ได้มีเฉพาะแค่เรื่องของการทำแผนเพื่อฟื้นฟูกิจการ เพื่อหาทางชำระคืนหนี้ทั้งหมด แต่ล่าสุดยังมีกระแสข่าวว่า แอน – จักรพงษ์ เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ พร้อมกับเงินจำนวนหลายพันล้านบาท

 

โดยเมื่อ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครใต้ได้ออกหมายจับ แอน – จักรพงษ์ หลังไม่เดินทางมาศาลเพื่อรับฟังคดีที่ถูก นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) และ จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงด้วยการชักชวนให้ซื้อหุ้นกู้ JKN ในช่วง 24 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2566

 

อย่างไรก็ตาม MASTER ชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นส่วนบุคคล (ของ นพ.ระวีวัฒน์) ไม่เกี่ยวข้องกับ MASTER ในทุกด้าน กรณีที่ นพ.ระวีวัฒน์ ปรากฏชื่อเป็นคู่ความในคดีฟ้องร้องดังกล่าว เป็นการดำเนินการในนามส่วนตัวโดยสมบูรณ์

 

เลขา ก.ล.ต. แจงทำไมถึงสกัด ‘ผู้บริหาร’ ที่ทำผิดหนีไปต่างประเทศไม่ได้

 

ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนการดำเนินการกับกรณี บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องที่สร้างความไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่า ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นสูงสุดเพื่อจัดการกับผู้กระทำผิด

 

เลขาธิการ ก.ล.ต. อธิบายต่อว่า กรณีของ JKN นั้นมีความซับซ้อนและเข้าข่ายการกระทำผิดที่มีเจตนาทุจริต ซึ่งสำนักงานฯ ได้ตัดสินใจใช้การบังคับใช้กฎหมาย แบบคู่ขนานทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนี้

 

  • มาตรการลงโทษทางแพ่ง (Civil Sanction): ก.ล.ต. เลือกใช้ช่องทางนี้เพื่อความรวดเร็ว (Speed) ในการตัดตอนผู้กระทำผิดออกจากตลาด โดยเน้นการ “ปรับ” และ “ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร” ซึ่งกระบวนการนี้จะเห็นผลเร็วกว่าการรอคดีอาญา และสามารถนำผู้กระทำผิดมายอมรับผิดได้เร็วกว่า,
  • การกล่าวโทษทางอาญา เนื่องจากพฤติการณ์ในคดีนี้เข้าข่ายการทุจริต ไม่สามารถจบแค่โทษปรับได้ ก.ล.ต. จึงต้องดำเนินการกล่าวโทษทางอาญาควบคู่ไปด้วย เพื่อส่งไม้ต่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา

 

หนึ่งในคำถามที่สังคมคาใจ คือเหตุใดผู้บริหารที่มีคดีความจึงสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เลขาธิการ ก.ล.ต. ชี้แจงข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ก.ล.ต. ไม่มีอำนาจในการห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ด้วยเหตุผล ดังนี้

 

  • มีเส้นแบ่งอำนาจ ซึ่งหน้าที่ของ ก.ล.ต. สิ้นสุดที่การรวบรวมพยานหลักฐานและ “กล่าวโทษ” ส่งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ.
  • รอยต่อกระบวนการยุติธรรม เมื่อเรื่องออกจากมือ ก.ล.ต. ไปแล้ว อำนาจในการสอบสวน ออกหมายเรียก จับกุม หรือควบคุมตัว จะเป็นหน้าที่ของ ตำรวจ อัยการ และศาล ตามลำดับ ดังนั้น การหลบหนีที่เกิดขึ้นจึงเป็นช่องว่างในขั้นตอนปฏิบัติที่อยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ล.ต.

 

ส่วนกรณี JKN ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดียเรื่องการได้รับคะแนนธรรมาภิบาล (CG Rating) ระดับ 5 ดาวจากบางหน่วยงาน ทั้งที่มีการทุจริตนั้น เลขาธิการ ก.ล.ต. ยอมรับว่าการประเมิน CG ดังกล่าวดูจากข้อมูลที่เปิดเผย และการวางระบบภายนอก ซึ่งต่อมาหน่วยงานดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวแล้ว

 

อย่างไรก็ดี หากผู้บริหารมีเจตนาทุจริตที่จะปกปิดหรือตกแต่งบัญชี การประเมินตามปกติอาจไม่สามารถตรวจจับได้ทันที

 

เลขาธิการ ย้ำต่อว่า ต้องแยกแยะระหว่างตัวบุคคลที่ตั้งใจทำผิด กับระบบของบริษัท โดยย้ำว่า ก.ล.ต. ไม่ได้เป็นผู้ยืนยันความถูกต้องของงบการเงินในทันที แต่เป็นหน้าที่ของ Gatekeeper เช่น ผู้สอบบัญชี และเมื่อความจริงปรากฏ ก.ล.ต. ก็ต้องลงโทษให้เร็วที่สุด

 

ทั้งนี้แม้จะมีกรณีอย่าง JKN, STARK หรือ MORE ที่สร้างบาดแผลให้กับตลาด แต่ไม่อยากให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นจนเหมารวมไปทั้งหมด เพราะในตลาดทุนไทยยังมีอีกกว่า 700-800 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างสุจริตและไม่มีปัญหา สิ่งที่ ก.ล.ต. จะทำต่อไปคือการสร้างกลไกป้องกันให้เข้มข้นขึ้น และบังคับใช้กฎหมายกับ “ปลาเน่า” ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

ย้อนรอย JKN อีกหนึ่งบทเรียนตลาดหุ้นไทย

 

ช่วงปี 2565 – กลางปี 2566 เดิม JKN ทำธุรกิจขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ (ซีรีส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์) ซึ่งทำกำไรได้ดี แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือการตัดสินใจขยายตัวอย่างก้าวกระโดด

 

ช่วงเดือนตุลาคม 2565 JKN สร้างความฮือฮาด้วยการทุ่มเงินกว่า 800 ล้านบาท ซื้อกิจการองค์กรนางงามจักรวาล (Miss Universe Organization – MUO) แบบ 100% หวังต่อยอดธุรกิจ Commerce ซึ่งการซื้อ MUO ใช้เงินมหาศาล ในขณะที่กระแสเงินสดเริ่มตึงตัว บริษัทออกหุ้นกู้ (Debenture) เพื่อระดมทุนมาหมุนเวียนและจ่ายหนี้เก่า

 

ผ่านมาจนถึง 31 สิงหาคม 2566 JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ‘ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้’ รุ่น JKN239A (จ่ายได้บางส่วน) ซึ่งส่งผลกระทบลูกโซ่ (Cross Default) ไปยังหุ้นกู้รุ่นอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท

 

ก่อนที่คณะกรรมการ JKN มีมติยื่นคำร้องขอ ‘ฟื้นฟูกิจการ’ ต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อพักชำระหนี้ ช่วงปลายปี 2566

 

ปี 2567 มีข่าว JKN แอบขายหุ้น MUO 50% ให้กับ Legacy Holding ของมหาเศรษฐีเม็กซิกัน ‘ราอูล โรชา’ ก่อนที่ศาลล้มละลายสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ โดยให้ผู้บริหารชุดเดิมเป็นผู้ทำแผนชั่วคราว

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขาย) และ NC ยาวนาน เพราะผู้สอบบัญชี ‘ไม่แสดงความเห็น’ ต่องบการเงิน ก่อนที่ ก.ล.ต. จะสั่งปรับ JKN และ แอน จักรพงษ์ กรณีเปิดเผยข้อมูลเท็จเรื่องการขายหุ้น MUO ตามมาด้วยการที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ แอน จักรพงษ์ ต่อ DSI ในข้อหา ‘ตกแต่งบัญชี’ โดยการสร้างลูกหนี้/เจ้าหนี้การค้าเท็จ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising