ความหวังในการกลับมาเปิดการแข่งขันอีกครั้งของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกใกล้จะเป็นความจริงมากขึ้นทุกที เมื่อ 20 สโมสรเตรียมจะยกมือเห็นชอบให้กลับมาทำการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบได้อีกครั้งในการประชุมวันนี้
หลังจากที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกต้องพักการแข่งขันยาวนานตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มรุนแรงขึ้นในยุโรป รวมถึงอังกฤษ และทำให้ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล และ แคลลัม ฮัดสัน-โอดอย ปีกดาวรุ่งของเชลซีติดเชื้อด้วย ก็มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะกลับมาทำการแข่งขันให้ได้อีกครั้งผ่านการประชุมเจรจากันต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะมีการเผยรายละเอียด Project Restart ที่จะเป็นแนวทางให้กลับมาทำการแข่งต่อในฤดูกาล 2019-20 ได้จนจบ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาคือเรื่องความกังวลใจของนักฟุตบอลที่ไม่มั่นใจกับความปลอดภัย เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงติดเชื้อที่อาจจะทำให้คนที่รักในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นภรรยา ลูก หรือสมาชิกครอบครัวคนสำคัญต้องติดเชื้อโควิด-19 ไปด้วย
ประเด็นดังกล่าวได้รับการยกขึ้นมาหารืออย่างเคร่งเครียดตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยมีนักเตะแกนนำอย่าง ทรอย ดีนีย์ กัปตันวัตฟอร์ดที่คัดค้านการกลับมาแข่งขันในช่วงนี้อย่างชัดเจน รวมถึง ราฮีม สเตอร์ลิง, แดนนี โรส และ เอ็นโกโล ก็องเต กองกลางฮาร์ดแมนทีมเชลซีที่ปฏิเสธจะกลับมาทำการฝึกซ้อม
แต่การประชุมนัดล่าสุดร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ของพรีเมียร์ลีก, ผู้เล่นในระดับอาวุโสของแต่ละสโมสร, ผู้จัดการทีม, แพทย์ประจำทีม และผู้บริหารของสโมสรในวันอังคารที่ผ่านมา (26 พฤษภาคม) เริ่มปรากฏสัญญาณที่ดี เมื่อการประชุมที่เดิมคาดว่าจะใช้เวลายาวถึง 2 ชั่วโมงกลับเสร็จสิ้นได้ภายใน 45 นาทีเท่านั้น โดยที่แทบไม่มีการต่อต้านในการที่จะเดินหน้าใน Step Two ของ Project Restart คือการกลับมาซ้อมแบบมีการสัมผัสตัวได้ (Contact Training)
สิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไม่ได้มาจากเรื่องของผลการตรวจหาเชื้อในนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ 2 รอบโดยพบผู้ติดเชื้อเพียง 8 จากการตรวจ 1,744 ครั้ง โดยที่ 3 ในจำนวนนั้นไม่ได้เป็นสตาฟฟ์โค้ชในส่วนของทีมฟุตบอลเท่านั้น
แต่เป็นเพราะนักฟุตบอลมีความมั่นใจในระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้การฝึกซ้อมนั้นปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ย้อนกลับไปในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีประเด็นเรื่องความเสี่ยงของนักฟุตบอลในกลุ่ม BAME หรือกลุ่มคนผิวสี, คนเอเชีย และชนกลุ่มน้อยที่มีการเปิดเผยสถิติว่ามีโอกาสเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าคนผิวขาวสองเท่า เรื่องนี้ได้มีการชี้แจงโดยทีมแพทย์ของพรีเมียร์ลีกแล้ว และทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น คาดว่านักฟุตบอลที่ไม่ขอกลับมาซ้อมจะกลับมาทำการซ้อมได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้
ขณะที่ความสำเร็จของการตรวจหาเชื้อ ซึ่งอยู่ใน Step One หรือขั้นแรกนั้น สามารถเห็นผลได้ชัดจากการที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจาก 6 คนในการตรวจรอบแรกเหลือเพียงแค่ 2 คนสำหรับการตรวจรอบนี้
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยอย่างมากคืออุปกรณ์การฝึกซ้อมที่ใช้เทคโนโลยี GPS ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกสโมสรมีการใช้อยู่แล้ว นักฟุตบอลได้รับการชี้แจงว่าด้วยอุปกรณ์นี้ จะทำให้ทราบได้ว่านักฟุตบอลคนใดที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ในระหว่างการฝึกซ้อม
โดยเฉพาะในกรณีที่ใกล้ชิดกับคนที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก็จะสามารถคัดกรองแยกนักฟุตบอลคนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นเชื่อว่าการประชุมพรีเมียร์ลีกในเช้าวันนี้ (27 พฤษภาคม) ตามเวลาในประเทศอังกฤษ ทุกฝ่ายจะเห็นชอบให้ Project Restart เดินหน้าสู่ Step Two เพื่อทำการฝึกซ้อมอีกครั้ง
ก่อนจะไปลุ้นกันใน Step Three ที่จะตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้วพรีเมียร์ลีกจะกลับมาได้เมื่อไรกันแน่ ระหว่างวันที่ 19 มิถุนายน หรือ 26 มิถุนายน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/edition/sport/premier-league-players-drop-concerns-over-full-training-whdj37btc
- https://www.theguardian.com/football/2020/may/26/premier-league-players-briefed-contact-training-key-meetings-loom
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
- อุปกรณ์ GPS คืออุปกรณ์การติดตามตัวที่จะสวมใส่ในระหว่างการฝึกซ้อม ปกติแล้วใช้สำหรับการติดตามข้อมูลในการฝึกซ้อมต่างๆ เช่น การวิ่ง ความเร็วในการวิ่ง ระยะทางในการวิ่ง การเคลื่อนที่
- พรีเมียร์ลีกจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ เกี่ยวกับเรื่องของเงินที่ต้องจ่ายคืนให้แก่ผู้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด เช่น Sky และ BT ในกรณีที่การแข่งขันยังไม่จบหลังวันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งจะต้องจ่ายคืนให้สัปดาห์ละ 36 ล้านปอนด์