วันนี้ (10 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรอบเวลา อภิปราย ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านได้ 13 ชั่วโมง ซึ่งพรรคประชาชนได้จัดวางผู้อภิปรายกว่า 30 คนไว้แล้ว และมีพรรคเล็กที่ขอเวลามาอีกเล็กน้อย
ทั้งนี้ จะเป็นการ อภิปราย ภาพรวม ไม่ได้เจาะจงให้ความสำคัญกับอะไรเป็นพิเศษ อภิปรายให้ครบถ้วนในนโยบายสำคัญๆ และลงรายละเอียดในนโยบายที่ฝ่ายค้านยังข้องใจสงสัย ให้เวลากับทุกประเด็น ยอมรับว่ามีไฮไลต์อยู่บ้าง แต่ขออุบไว้ก่อน
ปกรณ์วุฒิยังระบุว่า ฝ่ายค้านต้องการตรวจการบ้านว่า 1 ปีที่ผ่านมา ต่อให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่คณะรัฐมนตรีไม่ได้เปลี่ยนแปลงขนาดนั้น และอีก 3 ปีต่อไปจะทำได้สำเร็จตามที่แถลงหรือไม่
ส่วนการกำหนดวัน อภิปราย ไม่ไว้วางใจหลังการแถลงนโยบาย คงต้องรอให้มีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรก่อน ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเสนอชื่อผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อให้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เมื่อนั้นจึงจะมีความชัดเจนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้น ปกรณ์วุฒิระบุว่า ประสานไปทางวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน ว่าจะแบ่งเวลาบางส่วนเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดสรรกันเองภายใน โดยไม่ได้ใช้สัดส่วนเวลาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะ อาจจะแบ่งไปฝ่ายละ 15 นาที โดยประมาณ
“ผมไม่ได้ไปก้าวก่ายว่าจะต้องอภิปรายเรื่องอะไร เพราะเป็น สส. ในสภาเหมือนกัน ก็มีน้ำจิตน้ำใจกันทั้งสองฝ่าย ก็แบ่งเวลาให้นิดๆ หน่อยๆ ส่วนเขาจัดสรรเวลาอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา” ปกรณ์วุฒิกล่าว
ปกรณ์วุฒิยังระบุว่าต้องคุยกับพรรคพลังประชารัฐเรื่องการเข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน เพราะต้องรอดูความชัดเจน ถ้าจะอยู่ฝ่ายค้าน จะมากี่คน เพราะพรรคพลังประชารัฐมี 40 ที่นั่ง แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นฝ่ายค้านแล้วจะเอาสัดส่วน 40 ที่นั่ง แต่ท้ายสุดมีมาลงมติตามวิปฝ่ายค้านไม่ถึงครึ่งก็คงไม่ยุติธรรม ดังนั้นถ้ายังไม่ชัดเจนก็คงไม่สามารถให้มาเข้าร่วมอย่างเป็นทางการได้ แต่สามารถพูดคุยประสานงานได้ตามปกติ