×

ประมวล ‘รัฐบาล vs. ฝ่ายค้าน’ อภิปรายญัตติถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ

โดย THE STANDARD TEAM
14.02.2024
  • LOADING...
ถวายความปลอดภัย

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ

 

THE STANDARD ประมวลความคิดเห็นจากการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล 

 

 

“เราอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข ไม่อยากให้มีพฤติกรรมหรือค่านิยมไปบั่นทอนสถาบันฯ ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมและทันสมัย เพื่อถวายความปลอดภัยให้สมพระเกียรติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันเสาหลักของชาติ”

 

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ 

ในฐานะผู้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“กระผมมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการคุกคามขบวนเสด็จฯ…เป็นการกระทำอันไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าที่คนไทยผู้จงรักภักดีทั้งประเทศจะยอมรับได้ เป็นการย่ำยีพระผู้ทรงเป็นหัวใจของประชาชน”

 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ 

ในฐานะผู้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“เราใช้น้ำมันดับไฟไม่ได้ ความรุนแรงไม่เคยแก้ไขความรุนแรงได้ แต่จะยิ่งทำให้บานปลาย ทุกความขัดแย้งในโลกใบนี้ล้วนแก้ไขได้ด้วยการพูดคุย และพยายามที่จะเข้าใจกัน เพื่อให้เกิดทางออกที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันอย่างสันติ” 

 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐเราต้องการที่จะนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งมากเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเกินกว่าที่เราจะก้าวข้ามไปได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกภาคส่วนที่ต้องรับผิดชอบมาร่วมกันพิจารณา หากผิดจริง ผู้ที่ก่อเรื่องขึ้นต้องรับกับสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นอย่างไม่มีข้อยกเว้น เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในอนาคต”

 

อรรถกร ศิริลัทธยากร สส. จังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ตะวันเป็นเพียงภาพสะท้อนของประชาชนที่มีชุดความคิดที่ไม่ถูกรับฟัง ไม่ได้รับการตอบสนอง และไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นปลายเหตุของการสะสมความไม่พอใจต่อระบบนี้เท่านั้น นายกรัฐมนตรีไม่เพียงแต่ต้องปรับปรุงความปลอดภัยมาตรการรักษาความปลอดภัยของขบวนเสด็จฯ แต่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเพื่อให้ความขัดแย้งหรือความเห็นต่างได้รับการรับฟังอย่างมีวุฒิภาวะ เพื่อยุติความขัดแย้งและความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย” 

 

พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส. จังหวัดสมุทรปราการ พรรคก้าวไกล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“หากมีการใช้ความรุนแรงโดยไม่ต้องรับผิดชอบนั้น อาจมีการกล่าวหาได้ว่ารัฐบาลคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”

 

รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“คนไทยทุกคนรับได้ (เรื่องขบวนเสด็จฯ) มีแผ่นดินอยู่ มีแผ่นดินคุ้มกะลาหัว ถ้ารับไม่ได้ ไปอยู่ประเทศอื่น”

 

ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“หากประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์จะเดินหน้าคู่กันได้อย่างมั่นคง…สิ่งที่เราร่วมกันทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ เราไม่ควรที่จะตอบโต้ด้วยอารมณ์ แต่ต้องต่อสู้กันด้วยเหตุและผล เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้ประชาชนไปจัดการปัญหากันเองด้วยการใช้อำนาจนอกกฎหมาย แต่เวลานี้คือเวลาของการพิสูจน์ความเป็นผู้นำของพวกเราทุกคน ในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อหาทางออกให้กับความขัดแย้งอันเปราะบางนี้ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามไปไกลกว่าที่เป็นอยู่” 

 

พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 

 

 

“ผมรู้สึกไม่สบายใจที่ฝ่ายรัฐบาลพูดว่า หากไม่พอใจให้ไปอยู่ประเทศอื่น หนักแผ่นดิน นิ้วไหนร้ายให้ตัดนิ้วนั้นทิ้ง นี่ผมยังนึกว่าเราอยู่ในรัฐบาลจากการรัฐประหาร เราเคยมีบทเรียนมาแล้วว่า การใช้ความจงรักภักดีมาแบ่งแยกประชาชน สุดท้ายไม่ส่งผลดีกับใครเลย” 

 

ชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 

 

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X