วันนี้ (28 สิงหาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ เตรียมจัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ ‘Car Mob-Call Out’ ในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการบริหารราชการด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด การรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากถือว่าเป็นการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิดด้วย
“จึงอยากฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าไม่อยากให้ทำผิดกฎหมาย รวมทั้งไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะประชาชนส่วนใหญ่ที่ใช้รถใช้ถนน และการจราจรต่างๆ ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายนนี้ จะมีการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผู้ชุมนุมหรือผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองสามารถนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ ผ่านผู้แทนราษฎร เพื่อสอบถามนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลได้ตามวิถีประชาธิปไตยสากล” ธนกรกล่าว
ธนกรกล่าวอีกว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อการชุมนุมในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะความปลอดภัยทั้งของผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจกลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ ที่ผ่านมาจึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความอดทนสูงสุดในดูแลการชุมนุมและทำงานโดยยึดหลักสากล อย่างไรก็ตาม สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พล.อ. ประยุทธ์พร้อมชี้แจงในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงถึงการทำงานของรัฐบาลที่มุ่งแก้ปัญหาโควิดและเดินหน้าเยียวยาทางเศรษฐกิจด้วย เพราะนายกรัฐมนตรีย้ำเสมอว่า ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ทางการเมือง และประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมาย