วันนี้ (23 สิงหาคม) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2565 หรือ Thailand Internet User Behavior 2022 ในงาน ‘IUB 2022: WHAT’S NEXT INSIGHT AND TREND เจาะลึกไลฟ์สไตล์คนไทย ในวันที่ขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้’
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ETDA ได้ดำเนินการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย หรือ Thailand Internet User Behavior มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว โดยทศวรรษที่ผ่านมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีการสำรวจต่อเนื่องทุกปี พบว่ากิจกรรมออนไลน์ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมการติดต่อสื่อสารออนไลน์, กิจกรรมออนไลน์เพื่อความบันเทิงอย่างการดูหนัง ฟังเพลง, กิจกรรรมการซื้อ-ขายของออนไลน์, การทำธุรกรรมทางการเงิน และการอ่านข่าว โพสต์ บทความ หนังสือ ส่วนกิจกรรมออนไลน์ที่มีแนวโน้มลดลงและอาจหายไปในอนาคต ได้แก่ การค้นหาข้อมูลเสิร์ชเอนจิน และการรับ-ส่งอีเมล เพราะปัจจุบันคนมักค้นหาและรับ-ส่งข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียมากขึ้น เช่นเดียวกับกิจกรรมการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ เพลง ละคร เกม เพื่อเก็บไว้ดูย้อนหลัง ในอนาคตก็อาจไม่มีอีกแล้ว เพราะถูกแทนที่โดยสตรีมมิงที่สามารถชมได้แบบเรียลไทม์ และย้อนหลังได้ผ่านแพลตฟอร์มนั้นๆ
จากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ประจำปี 2565 หรือ Thailand Internet User Behavior (IUB) 2022 ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 46,348 รายทั่วประเทศ กระจายตามอายุและจังหวัดในแต่ละภูมิภาค ตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคม 2565 พบว่า
ปีนี้ Gen Y (ช่วงอายุ 22-41 ปี) กลับมาครองแชมป์ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด 8 ชั่วโมง 55 นาที แซงหน้า Gen Z (อายุน้อยกว่า 22 ปี) อดีตแชมป์ 1สมัย ที่ลงมาอันดับ 2 ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 8 ชั่วโมง 24 นาที ตามด้วย Gen X (ช่วงอายุ 42-57 ปี) 5 ชั่วโมง 52 นาที และ Baby Boomer ขึ้นไป (ช่วงอายุ 58 ปีขึ้นไป) 3 ชั่วโมง 21 นาที
ขณะที่ภาพรวมพบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 7 ชั่วโมง 4 นาที โดยกลุ่มตัวอย่างที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดถึง 10 ชั่วโมง 5 นาที ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ ใช้ไม่ต่างกันมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ชั่วโมง 59 นาที, 6 ชั่วโมง 45 นาที และ 6 ชั่วโมง 17 นาที ตามลำดับ ส่วนภาคใต้ใช้น้อยที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ชั่วโมง 35 นาที
แต่เมื่อพิจารณาตามอาชีพพบข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจมาก เพราะข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ติดอันดับ 1 ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น อยู่ที่ 11 ชั่วโมง 37 นาที สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ รวมถึงความพร้อมของบุคลากรภาครัฐ ในการยกระดับการทำงานสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการทำงานแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Office มากขึ้น รองลงมาคือ นักเรียน นักศึกษา 8 ชั่วโมง 57 นาที, ฟรีแลนซ์ 7 ชั่วโมง 40 นาที, เจ้าของกิจการ ธุรกิจส่วนตัว 7 ชั่วโมง 29 นาที และพนักงาน ลูกจ้างเอกชน 7 ชั่วโมง 6 นาที เป็นต้น
ขณะที่ 10 กิจกรรมออนไลน์ยอดฮิตขวัญใจสังคมออนไลน์ ได้แก่
- ปรึกษาและรับบริการทางการแพทย์ (จองคิว, ปรึกษาแพทย์) มากที่สุด 86.16% อาจเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด จึงทำให้คนสนใจและหันมาจองคิวรับวัคซีน ตรวจหาเชื้อ และปรึกษาแพทย์ผ่านทางออนไลน์มากขึ้น หรือเพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในโรงพยาบาลเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด
- ติดต่อสื่อสาร 65.70%
- ดูรายการโทรทัศน์ คลิป ดูหนัง ฟังเพลง 41.51%
- ดูถ่ายทอดสดเพื่อซื้อสินค้าและบริการ (Live Commerce) 34.10%
- ทำธุรกรรมทางการเงิน 31.29%
- อ่านโพสต์ ข่าว บทความ หนังสือออนไลน์ 29.51%
- รับ-ส่งอีเมล 26.62%
- ช้อปปิ้งออนไลน์ 24.55%
- ทำงาน ประชุมออนไลน์ 20.67%
- เล่นเกมออนไลน์ 18.75%
โดยประเด็นที่น่าจับตาคือ แม้กิจกรรมการดู Live Commerce จะเป็นกิจกรรมที่นำมาสำรวจในปีนี้เป็นปีแรก แต่กลับติด Top 5 กิจกรรมออนไลน์ยอดฮิตที่คนไทยทำมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่า Live Commerce เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าจับตาว่าเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความนิยมมากขึ้น โดยกลุ่มคนที่เข้าชมมากที่สุด คือ Gen Y รับชมมากที่สุดถึง 64.65% และเพศหญิงรับชมมากกว่าเพศชาย นี่จึงทำให้ Gen Y ครองแชมป์ ‘นักช้อปออนไลน์’ (88.36%) แซงหน้าทุก Gen รองลงมาคือ Gen X (84.55 %), Gen Z (81.53%), Baby Boomer (74.04%) และ Gen Builder (52.30%)
โดยประเภทสินค้าที่ Gen Y เลือกซื้อมากที่สุดคือ เสื้อผ้า, รองเท้า, อุปกรณ์กีฬา และเครื่องประดับ มากที่สุด รองลงมาคือ เครื่องสำอาง
ส่วน Gen X เลือกซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้า, รองเท้า, อุปกรณ์กีฬา และเครื่องประดับ มากที่สุด รองลงมาคือ สินค้าอุปโภคบริโภค
Gen Z เลือกซื้อเสื้อผ้า, รองเท้า, อุปกรณ์กีฬา และเครื่องประดับ มากที่สุด รองลงมาคือ เครื่องสำอาง
Baby Boomer เลือกซื้อสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคมากที่สุด รองลงมาคือ อาหารแห้ง
Gen Builder เลือกซื้ออาหารสดมากที่สุด เป็นต้น
เหตุผลที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนใหญ่เลือกซื้อเพราะราคาถูก 63.10%, ความหลากหลายของสินค้า 58.73%, แพลตฟอร์มใช้งานง่าย 45.81%, การจัดโปรโมชัน เช่น 11.11, 12.12, Flash Sale ที่ 44.39% และค่าจัดส่งถูกหรือฟรี 34.10% โดยช่องทางที่คนไทยเลือกซื้อออนไลน์มากที่สุด คือ E-Marketplace (เช่น Shopee, Lazada และ Kaidee) 75.99% รองลงมาคือ Facebook 61.51%, Website 39.7%, LINE 31.04%, Instagram 12.95% และ Twitter 3.81%
สำหรับช่องทาง Social Commerce ที่ผู้ขายนิยมใช้ขายสินค้าหรือบริการมากที่สุดสูงถึง 66.76% คือ Facebook รองมาคือ E-Marketplace 55.18%, LINE 32.05%, Website 26.67%, Instagram 19.91% และ Twitter 9.90% สำหรับช่องทางการชำระเงินพบว่า คนไทยนิยมชำระเงินโดยการโอนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันธนาคารมากที่สุดถึง 67.32% รองมาคือเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery: COD) 58.49%, ชำระด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) 24.43%, บัตรเครดิต 17.09% และบริการชำระเงินออนไลน์ เช่น บริการ PayPal หรือ Google Pay 15.51% เป็นต้น
นอกจากประเด็นพฤติกรรมการซื้อ-ขายของออนไลน์แล้ว ผลสำรวจปีนี้ยังพบว่า Gen Y และ Gen Z มีแนวโน้มมุ่งสู่การเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากกว่า Gen อื่นๆ เนื่องจากเป็น Gen ที่นิยมสร้างออนไลน์คอนเทนต์มากที่สุด โดยประเภทคอนเทนต์ที่นิยมสร้างมากที่สุด คือ วิดีโอ/คลิป 49.85%, เขียนบทความ/คอนเทนต์/เว็บไซต์ 41.79%, ถ่ายทอดสด (Live) 36.77%, สตรีมมิงเกม/สตรีมมิงอื่นๆ 11.86%, จัดรายการวิทยุออนไลน์ 10.32% และจัดรายการพอดแคสต์ 8.98%
สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2565 ฉบับเต็ม ที่จะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand