วันนี้ (4 ธันวาคม) ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัด 11 จังหวัดคือ จังหวัดชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย รวมทั้งมีประชาชนเสียชีวิต
โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงมีบัญชาให้ภาครัฐเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้มีงบประมาณปกติของกระทรวงมหาดไทยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเบื้องต้นอยู่แล้ว
“สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม รัฐบาลได้มีกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับเงินบริจาคจากพี่น้องประชาชนทั่วไป โดยคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวตามเกณฑ์ที่กำหนด” ธีรภัทรกล่าว
ธีรภัทรกล่าวอีกว่า หากพี่น้องประชาชนต้องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้เพิ่มเติม เช่น การจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็น และการซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม สำนักนายกรัฐมนตรีโดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคเงินสมทบเข้า ‘กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี’ บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยผู้ที่ร่วมบริจาคเงินสามารถนำใบเสร็จรับเงินการบริจาคไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์