วันนี้ (12 กันยายน) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความเสี่ยงของวัยรุ่นที่ติดโรคทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสและหนองในในกลุ่มอายุ 15-24 ปี ซึ่งผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสการติดเชื้อ HIV มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ป่วยถึง 5-9 เท่า
รัชดากล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV ปี 2564 จำนวนประมาณ 520,00 คน และคาดว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 6,500 คนต่อประชากรทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี โดยในปีงบประมาณ 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมงบประมาณไว้สำหรับงาน HIV-เอดส์ จำนวน 3,978 ล้านบาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือประชาชนกลุ่มเฉพาะตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด ครอบคลุมบริการการรักษาด้วยยาต้านไวรัส การตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ การตรวจคัดกรอง และการตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซี
รัชดากล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการยุติปัญหาเอดส์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ภายในปี 2573 ซึ่งกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนาระบบให้คำปรึกษาออนไลน์ เรื่อง HIV-เอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ผู้รับบริการสามารถสแกน QR Code ได้ที่ LINE OA: @Stand by you หรือเว็บไซต์ Standbyyou.info เพื่อขอรับบริการ ได้แก่ ขอรับชุดตรวจหา HIV ทำแบบประเมินหาความเสี่ยง ขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ
รัชดายังกล่าวด้วยว่า ระบบการให้บริการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะวัยรุ่นเข้าถึงคำปรึกษา ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถได้รับยาป้องกันทั้งแบบฉุกเฉินและแบบป้องกัน HIV หากมีความเสี่ยงในอนาคต นำไปสู่การตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาของ HIV-เอดส์ต่อไป และควบคู่กันไป ต้องย้ำเตือนเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยด้วย เพราะจะเป็นการป้องกันการติดต่อของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด