คณะกรรมการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา ที่มี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
วิษณุกล่าวหลังการประชุมว่าที่ประชุมได้พิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาอย่างบูรณาการ ทั้งการจ่ายเงินตาม พ.ร.บ. ของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และระเบียบอุดหนุนผู้ประสบภัยของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในส่วนของกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และจะมีการประชุมเพื่อสรุปการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. ที่ชั้น 2 อาคารสำนักงานข้าราชการพลเรือน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วคาดว่าจะจ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยเงินจำนวนนี้เป็นไปตามระเบียบราชการ เป็นการเติมจากเงินช่วยเหลือของหน่วยงานอื่นๆ
การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต 27 รายจาก 30 ราย โดยไม่ครอบคลุมผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย ผู้ก่อเหตุและคู่กรณี 2 ราย ที่ต้องรอดูสำนวนการสอบสวนทางคดีก่อน ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะได้เงินเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆ รายละ 1 ล้านบาท ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายและตำรวจอาสา 1 รายที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ยังได้เงินเยียวยาจากกองทุนต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 7-8 กองทุน ประมาณรายละ 3 ล้านบาท และได้เลื่อนชั้นยศตามระเบียบ ส่วนพลทหาร 1 รายที่เสียชีวิตจะมีสวัสดิการของกองทัพ เช่น ประกันชีวิต และสวัสดิการอื่นตามสิทธิที่มีในการช่วยเหลือ
สำหรับผู้บาดเจ็บ 58 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บสาหัส 29 คน ตามกฎหมายการคลังและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีมีหลักเกณฑ์ไว้ที่คนละ 2 แสนบาท ส่วนบาดเจ็บไม่สาหัส หรือเล็กน้อย 29 คน จะพิจารณาจ่ายสูงสุดคนละไม่เกิน 1 แสนบาท
นอกจากนั้นยังมีการเยียวยาด้านจิตใจ โดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จะมีมาตรการช่วยเหลือ เนื่องจากมีความเป็นห่วงเรื่องการนำเสนอผ่านสื่อ นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่จังหวัดลพบุรีมาถึงนครราชสีมา เกรงจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ จึงต้องมีมาตรการในการเฝ้าระวัง รวมถึงการเสนอการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูด้านจิตใจและความเป็นอยู่ของชาวโคราช ขณะที่ด้านการค้าจะมีการพิจารณาปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ส่วนทรัพย์สินของห้างเทอร์มินอล 21 เสียหายราว 10 ล้านบาท รวมถึงร้านค้าในห้างและรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และมีตัวเลขอยู่แล้ว ทั้งกรมธรรม์ที่คุ้มครองเรื่องชีวิต สุขภาพ ทรัพย์สิน จะไปเร่งรัดให้จ่ายโดยเร็ว ขณะที่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บที่มีภาระหนี้สินกับธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคาร สงเคราะห์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน จะยกหนี้ให้กับกรณีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บจะลดดอกเบี้ย 0.01% ซึ่งจะมีกำหนดเวลาต่างกันของแต่ละธนาคาร ยืนยันว่าการเยียวยาของภาครัฐเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ. 2542 เคยใช้ในการเยียวยาเหตุชุมนุมราชประสงค์และผู้ประสบภัยจากไต้ฝุ่นโพดุล-คาจิกิ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
