วันนี้ (26 ธันวาคม) บรรยากาศก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงฉายารัฐบาลประจำปี แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลว่า “เห็นแล้ว” และตนเองเข้าใจว่าเป็นการตั้งฉายาตามธรรมเนียมปฏิบัติทุกปี
ขณะที่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงฉายา ‘มาเฟียละเหี่ยหัวใจ’ ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ประจำปี 2566 ตั้งให้ตนเองว่า เป็นเรื่องที่ทำทุกรัฐบาล เป็นเรื่องการหยอกล้อ ส่วนตัวนั้นไม่ถือสา และตนเองก็ไม่ใช่ น้าไข่ มาลีฮวนน่า ด้วย แต่เพลง หัวใจละเหี่ย ก็เป็นเพลงที่ตนเองชอบ ก่อนจะร้องเพลง หัวใจละเหี่ย และเดินขึ้นตึกไทยบัญชาการ 1 เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วน สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงฉายา ‘พลิกทินสู่ดาว’ ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ประจำปี 2566 ตั้งให้ตนเองว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ตั้งฉายาให้ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ตนเคารพในวิจารณญาณของสื่ออยู่แล้ว ขอบคุณ ไม่ว่าจะออกมาอย่างไรก็พร้อมรับ เมื่อขึ้นสู่ดาวแล้วก็ต้องทำให้เป็นดาวจริงๆ และหวังว่าในปีหน้าและปีต่อๆ ไปจะไม่ใช่ดาวดับ ต้องให้เป็นดาวเด่น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าชินกับการเป็นดาวแล้วหรือไม่ สุทินกล่าวว่า เป็นดาวไม่แน่ใจ แต่การเป็นรัฐมนตรีเริ่มชินแล้ว ส่วนจะทำให้เป็นดาวค้างฟ้าได้หรือไม่ก็มั่นใจว่าจะทำได้ แต่วันนี้ยังไม่หลงว่าตนเองเป็นดาว วันนี้ขอเป็นรัฐมนตรีที่ไม่แย่กว่ารัฐมนตรีคนก่อนๆ และมาตรฐานไม่ตกกว่าคนก่อนๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการสร้างภาพจำการเป็นรัฐมนตรีที่มาจากพลเรือนได้อย่างไร สุทินกล่าวว่า ตอนนี้ก็น่าจะจำได้แล้ว เพราะคนก็เริ่มสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ถึงการมีรัฐมนตรีที่มาจากพลเรือนและมาจากทหาร อุณหภูมิเปลี่ยน บรรยากาศก็เปลี่ยนไป ถ้าเราทำให้บรรยากาศเปลี่ยนและประชาธิปไตยเดินหน้าสู่การพัฒนาบ้านเมืองได้ ตนก็คิดว่าเป็นความสำเร็จแล้ว ส่วนการปฏิรูปกองทัพ หลังปีใหม่จะได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้จะมีงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) จะมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของทหาร อย่างเช่น เรื่องการมอบที่ดินทำกิน และเรื่องอื่นๆ ก็จะทยอยออกมา
ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงฉายา ‘รองกอง’ ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ประจำปี 2566 ตั้งให้ตนเองว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้กำลังใจให้การทำงาน พร้อมมองว่าสื่อเป็นกระจกสะท้อนที่เห็นและบอกว่ารู้สึกอย่างไร สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการตั้งฉายา หน้าที่อย่างเดียวคือต้องไปตรวจสอบตัวเอง เช่น ตนเป็นรองกองก็ต้องไปนั่งคิดว่าเรากองอะไรไว้บ้าง ความหมายคืออะไร เป็นกระจกสะท้อนปรับปรุงให้ตัวเองทำงานได้ดีขึ้น อันไหนที่ตรงก็รับไปจัดการ อันไหนไม่ตรงก็เป็นข้อพึงสังวร ว่าอย่างน้อยก็ยังมีบางส่วนที่มองเราแบบนี้
ส่วนฉายารัฐบาล แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม นั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเสียงสะท้อนได้ตรงส่วนหนึ่ง เพราะเราเป็นรัฐบาลผสม พร้อมยังบอกว่า สิ่งที่สำคัญที่พวกเรามาทำงานร่วมกัน ผ่านสภาพปัญหาที่เป็นวิกฤตของประเทศมาด้วยกัน และเราช่วยให้ผลักดันตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ทำงานด้วยกันแบบไม่มีปัญหา วันนี้ยืนยันตามที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า 314 เสียง มีความมั่นคง ไม่มีว่อกแว่ก มีแต่จะช่วยกันทำงานให้หนักขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรีขยัน สื่อมวลชนเองก็ไม่ได้พัก ต้องวิ่งตามนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีก็ต้องทำงานให้เต็มที่ ก่อนย้ำว่าไม่มีผลัก มีแต่ผักรวมกัน
ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงฉายารัฐบาลประจำปี แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม ว่ารัฐบาลนี้มีการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐา นายกรัฐมนตรี ที่เป็นคนทำงานรวดเร็ว โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา ถ้าจะมองลักษณะการทำงานอย่างรวดเร็วก็ไม่แปลก แต่จะเป็นการตำหนิก็ไม่ถูก ตนเองจึงเชื่อว่าการเปิดประเด็นการแก้ปัญหาอย่างหลากหลายเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลมีระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาชัดเจน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
สมศักดิ์ยังกล่าวอีกว่า การตั้งฉายารัฐบาลเป็นเรื่องที่สื่อคิด พูดหวังคำตอบ ดังนั้นสื่อจะต้องมีวิจารณญาณที่ดี การตั้งฉายาของสื่อมวลชนถือเป็นเรื่องธรรมดาที่พยายามตั้งอะไรที่ทำให้ต่อเนื่องได้หลายๆ วัน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวหลังรัฐบาลได้รับฉายาประจำประจำปี 2566 แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม ว่ามันมีความหมายแต่ละคำ ก็แล้วแต่จะแปล แต่โดยรวมมันเป็นกระบวนการ พร้อมอธิบายว่าแกง คือเอามาปรุง ซึ่งเป็นความหมายของคนทั่วไป แต่คนรุ่นใหม่อาจมองอีกมุมหนึ่ง ส่วนผลัก ใช้แรง กระทำให้มันออกไป แต่สุดท้ายคือรวม การรวมเพื่อประเทศซึ่งผลสัมฤทธิ์คือการรวมเพื่อประเทศชาติบ้าน
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการตั้งฉายารัฐบาล แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม ว่าตนขอบคุณสื่อมวลชนที่ตั้งฉายารัฐบาล สรรหาคำและความหมายต่างๆ ทั้งคำว่า แกง ส้ม ซึ่งในแกงส้มก็มีผักหลายชนิดหลายรสชาติ มีทั้งหวาน มัน ขมบ้าง เค็มบ้าง แต่รวมๆ แล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย เชื่อว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าคิดสูตรและเร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อประชาชน เหมือนกับการรับประทานแกงส้มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ได้สอบถามฉายาประจำปีของตนเอง เมื่อทราบว่าไม่มีชื่อของตนเอง พร้อมกล่าวว่า “จริงเหรอ ดีใจ” ก่อนจะยิ้ม หัวเราะ และเดินขึ้นตึกไทยบัญชาการ 1 เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทันที