วันนี้ (10 สิงหาคม) สำนักข่าว Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 2 แหล่งที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งระบุว่า โกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศและลาออกจากตำแหน่งหลังจากถูกชุมนุมประท้วงขับไล่ คาดว่าจะเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครในวันพรุ่งนี้ (11 สิงหาคม) เพื่อหาที่พักพิงชั่วคราวในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแห่งที่สอง
ราชปักษาหนีไปยังสิงคโปร์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผ่านทางมัลดีฟส์ หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งประวัติการณ์ที่สืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของศรีลังกาในรอบ 7 ทศวรรษ และหลังจากผู้ประท้วงหลายพันคนบุกโจมตีบ้านพักและสำนักงานของประธานาธิบดี
กระทรวงการต่างประเทศของศรีลังกายังไม่ตอบสนองใดๆ ต่อการขอความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของไทย บอกกับ Reuters ว่า “ไม่มีความคิดเห็น”
ราชปักษาวัย 73 ปี ไม่ได้ปรากฏตัวหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสาธารณะตั้งแต่ออกจากศรีลังกา และรัฐบาลของสิงคโปร์ก็ระบุในเดือนนี้ว่าสิงคโปร์ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษหรือความคุ้มกันใดๆ แก่เขา
ราชปักษาเคยทำงานในกองทัพ และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กองกำลังของรัฐบาลก็เอาชนะกองกำลังพยัคฆ์ทมิฬอีแลมได้ในปี 2009 เพื่อยุติสงครามกลางเมืองในศรีลังกา ซึ่งขณะนี้กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มต้องการให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่าราชปักษาก่ออาชญากรรมสงคราม และเขาเคยออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างแข็งขัน
นักวิจารณ์และผู้ประท้วงบางคนยังกล่าวหาว่าราชปักษาและครอบครัวของเขาบริหารจัดการเศรษฐกิจผิดพลาดระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และนำไปสู่วิกฤตทางการเงินที่เลวร้ายที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี 1948
ขณะที่ รานิล วิกรมสิงเห ผู้รับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากราชปักษา ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเวลาที่ราชปักษาควรเดินทางกลับศรีลังกา และบอกว่าเขาไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ชี้ว่าราชปักษาจะเดินทางกลับมาในเร็วๆ นี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่า หากราชปักษากลับมายังศรีลังกา เขาอาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายหากมีการฟ้องร้องต่อเขา
ภาพ: John Angelillo / AFP / POOL
อ้างอิง: