Q: เป็นผู้ชายทำงานในออฟฟิศครับ มีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ พวกเราสนิทกันจนบางทีเพื่อนผู้หญิงก็ชอบมากอด บางทีก็แซวบ้าง หลังๆ เริ่มหนักขึ้น ถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น พูดจาน่ากลัวขึ้นทุกวันจนผมกลัวครับ ผมพยายามปฏิเสธทุกครั้ง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ผมควรบอกเพื่อนหรือปฏิบัติตัวอย่างไรดีครับ
A: ถ้าผู้ชายคนหนึ่งไปแซวผู้หญิงว่า “หน้าอกน่าขยำจัง” เราทุกคนเรียกสิ่งนี้ว่าการคุกคามทางเพศทันที แต่ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งไปแซวผู้ชายว่า “หน้าอกน่าขยำจัง” เราจะเรียกสิ่งนี้ว่าการคุกคามทางเพศหรือการแซวเล่นขำๆ?
เห็นความไม่เท่าเทียมทางเพศที่ส่งผลต่อการมองโลกไหมครับ
เมื่อพูดถึงการคุกคามทางเพศแล้ว หลายคนคงเข้าใจว่าเกิดขึ้นกับเหยื่อที่เป็นผู้หญิงและผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชายเท่านั้น ที่จริงแล้วผู้ชายก็ประสบเหตุการณ์แบบนี้ได้จากทั้งผู้ชายและผู้หญิงเหมือนกัน และผู้ก่อเหตุอาจเป็นได้ทั้งผู้มีอำนาจมากกว่าอย่างหัวหน้า หรืออาจเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ฯลฯ เป็นใครได้ทั้งนั้น
การไม่ตระหนักว่าผู้ชายก็เป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศได้เหมือนกันทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างต่อผู้ชายเอง เมื่อผู้ชายถูกคุกคามทางเพศ คนก็จะมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นปัญหา ไม่ได้เสียหายหรือสึกหรออะไร บางคนมองว่าถ้าผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิง ผู้ชายก็ได้กำไร เป็น Sexual Fantasy อีก บางคนมองว่าคิดมากไปหรือเปล่า แค่หยอกเล่นหรือแซวสนุกปากเฉยๆ หรือบางทีเหยื่อผู้ชายก็กลัวว่าถ้ายอมรับว่าถูกคุกคามทางเพศจะเสียเชิงชายไหม จะโดนล้อหรือเปล่า ฯลฯ
เมื่อเป็นแบบนี้ ผู้ชายที่เป็นเหยื่อเองก็เลือกที่จะเงียบหรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในอันตราย ซึ่งไม่ถูกต้องเลยที่จะปล่อยให้การคุกคามทางเพศยังเกิดขึ้นต่อไป เราไม่ควรมองข้ามความเจ็บปวดของใคร หรือทนเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวทั้งที่เราเป็นผู้ถูกกระทำ
ผมอยากชื่นชมที่คุณมองเห็นว่าการกระทำของเพื่อนร่วมงานผู้หญิง ทั้งการถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น หรือใช้คำพูดแซวกันเป็นการคุกคามทางเพศ และคุณปฏิเสธอย่างหนักแน่นเพื่อปกป้องตัวเอง ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษจะไม่ฉวยโอกาสที่ผู้หญิงเข้ามาถึงเนื้อถึงตัว ถูกแล้วครับที่คุณตระหนักว่ามันคือปัญหา เพราะนี่คือปัญหา คุณไม่ได้ทำอะไรผิด
การแซวเป็นเรื่องที่ผมว่าคิดน่าเป็นห่วงมาก ผมได้เห็นในรายการโทรทัศน์ วิดีโอ คอนเทนต์ออนไลน์ หรือแม้กระทั่งตามคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย หลายๆ ครั้งที่ใช้การแซวเป็นความสนุก ยิ่งแซวแล้วลากลงไปเรื่องเพศได้มากเท่าไรยิ่งดัง คนยิ่งชอบใจ หัวเราะเฮฮา แต่ที่จริงมันคือการทำให้การคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เป็นเรื่องสนุกหรรษา ซึ่งนี่คือความรุนแรงทางเพศที่เคลือบมากับความตลก มันโหดร้ายพอๆ กับความรุนแรงที่เห็นกันโต้งๆ เลยล่ะครับ ตลกไม่ออกจริงๆ
เราสามารถตลกได้โดยไม่ต้องแซวกันด้วยการลากเข้าเรื่องเพศ ต่อให้คนนั้นจะเป็นเพศไหนก็เถอะครับ บางคนใช้การแซวคนอื่นในเรื่องเพศเป็นการแสดงออกถึงการกล้าพูดหรือมั่นใจในตัวเอง แต่เราเป็นคนกล้าพูดและมั่นใจในตัวเองได้โดยไม่ต้องทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี อย่างกรณีของคุณเองก็คงเป็นเสียงสะท้อนจากผู้ชายเหมือนกันว่าผู้ชายก็ไม่โอเคกับการถูกหยอกล้อในเรื่องเพศ
ทีนี้การคุกคามทางเพศคืออะไร มันคือการกระทำทางเพศไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจ การใช้วาจา การกระทำทางร่างกาย การสร้างสภาพแวดล้อม หรือบรรยากาศที่มาควบคุมจนส่งผลให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ อับอาย ถูกรบกวน ถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ ถูกลดทอนประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต หรือเป็นอันตรายด้วยความไม่ยินดี ไม่ยอมรับ ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะที่ปฏิเสธได้หรือไม่ก็ตาม
ประเด็นหลักคือถ้ามันส่งผลให้ฝ่ายที่ถูกกระทำมีความรู้สึกอึดอัด นั่นคือการคุกคามทางเพศครับ บางเรื่องคนทำอาจจะรู้สึกว่ามันเบา แต่ถ้ามันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี มันผิดหมดครับ ก็เหมือนที่เพื่อนร่วมงานผู้หญิงของคุณอาจจะไม่ได้มองว่ากำลังคุกคามทางเพศคุณอยู่ อาจจะมองว่าแค่แซวกันเล่นๆ ขำๆ แค่ถึงเนื้อถึงตัวเพราะสนิทกัน ซึ่งนั่นล่ะครับ ในเมื่อมันทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ สิ่งนี้ควรต้องหยุด
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ นะครับ การเรียกใครว่า ‘สุดหล่อ’ เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่คำเรียกที่ดีเท่าไรหรอกนะครับ เพราะมันเท่ากับว่าเรามองเห็นเขาแค่ภายนอก เราให้คุณค่าเขาในฐานะสัตว์โลกแสนสวยเท่านั้น ผมคิดว่ามันน่าเจ็บปวดนะครับถ้าใครจะมองเห็นคุณค่าของเราแค่เปลือกนอก ถ้าเราจะมอง นี่ก็เป็นการคุกคามทางเพศอย่างหนึ่งนะครับ ไม่ได้บอกว่าต่อไปนี้จะชมใครว่าสวยหล่อไม่ได้แล้วนะครับ แต่ผมอยากให้ลองมองให้ลึกขึ้น นอกจากความสวยหล่อแล้ว เขามีอะไรให้เราเอ่ยถึงอีกไหม อยากชมว่าหล่อสวยก็ชมได้เลยครับ แต่อย่าลืมบอกเขาด้วยว่าเขามีข้อดีอื่นๆ อะไรบ้างที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง
สิ่งที่ผมอยากแนะนำให้คุณทำก็คือคุยกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงโดยตรง ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือคุณบอกว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของคุณ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันจริง ปรารถนาดีต่อกันจริงๆ เขาควรรับฟังว่าเพื่อนไม่สบายใจอย่างไรจากการกระทำของเขา เพราะมันจะเป็นผลดีกับทั้งตัวเขาและตัวคุณ
บอกเขาว่าคุณไม่สบายใจและรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ถูกแซวด้วยคำพูดและการกระทำถึงเนื้อถึงตัว คุณอยากบอกเรื่องนี้ในฐานะที่เขาเป็นเพื่อน และเชื่อว่าคนเป็นเพื่อนกันก็ควรเข้าใจความทุกข์ของเพื่อนและอยากทำให้เพื่อนสบายใจเหมือนกัน เราไปแบบซอฟต์ๆ ก่อน แต่เป็นซอฟต์ที่จริงจังนะครับ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ความจริงจังของเรานี่ล่ะครับจะมีส่วนให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ล้อเล่น เราทุกข์จริงๆ และเราต้องการการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมก็หวังอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าใจ
ถ้าบอกแล้วเขาเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องดีครับ แต่ถ้าเขาไม่คิดว่าเรื่องนี้ซีเรียสและยังพยายามทำอีก ผมคิดว่าควรบอกเดี๋ยวนั้น ณ เวลาที่เราถูกกระทำเลยว่าคุณไม่โอเคกับการกระทำแบบนี้ เตือนแล้วนะ ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าคุณไม่ยอมรับการกระทำของเพื่อนคุณ สร้างระยะห่างที่ชัดเจน ในกรณีที่เขายังคงคุกคามคุณอยู่ แม้ว่าคุณจะแสดงออกแล้วว่าคุณไม่ยอมรับการกระทำของเขา ผมขอแนะนำให้คุณใช้ไม้แข็งแจ้งหัวหน้าและฝ่าย HR เพื่อดำเนินการต่อ นี่เป็นเรื่องที่เราต้องจริงจัง เพราะสภาพแวดล้อมในการทำงานมันรบกวนจิตใจของคุณแล้ว และมันอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคุณ หากยังปล่อยไว้จะเป็นการสร้างมาตรฐานว่าการคุกคามทางเพศในที่ทำงานเป็นเรื่องยอมรับได้
ผมเชื่อว่าการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องของคุณจะส่งผลให้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศการทำงานในบริษัทดีขึ้น เพราะคุณมีส่วนทำให้คนเคารพซึ่งกันและกัน ไม่เอาเปรียบกัน ไม่ทำร้ายกัน ไม่เฉพาะในบริษัทของคุณ แต่ผมเชื่อว่าเรื่องราวของคุณจะทำให้หลายคนทบทวนการกระทำของตัวเองว่าเข้าข่ายการคุกคามทางเพศอยู่หรือเปล่า ทำให้คนอื่นไม่สบายใจอยู่หรือไม่ และทำให้หลายคนกล้าเผชิญหน้ากับความไม่ถูกต้องในที่ทำงาน
ขอบคุณในความกล้าหาญของคุณครับ
ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์มาที่ Facebook: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ (Facebook.com/Toffybradshawwriter)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์